ขับรถเที่ยวคิวชู แลนมาร์ค Fukuoka – Oita – Miyazaki – Kagoshima

ขับรถเที่ยวคิวชู

ขับรถเที่ยวคิวชู เราจะขับรถเที่ยวตามเส้นทางของคิวชูจากเหนือไปสู่ใต้ ผ่านจังหวัด Fukuoka – Oita – Miyazaki – Kagoshima ซึ่งเส้นทางที่เราไปนั้น เขาว่าเป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน แล้วเชื่อว่าเป็นที่กำเนิดของคนญี่ปุ่นยุคแรกๆ และตำนานของเทพเจ้า Amaterasu เทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์ของศาสนาชินโต และเรื่องราวอีกเยอะมากในส่วนนี้ของญี่ปุ่น เราเดินทางตั้งแต่ ฟุกุโอกะ โออิตะ มิยาซากิ และจบที่คาโกชิมะ เป็นเส้นทางสายประวัติศาสตร์และธรรมชาติ

ซึ่งครั้งนี้ ขับรถเที่ยวคิวชู เราเดินทางในช่วงปลายมกราคม อากาศจะค่อนข้างเย็นมาก

ไปญี่ปุ่นอย่าลืมใช้โค้ดของ GGJP! รวมคูปองส่วนลดในญี่ปุ่น Donki/ตึกม่วง Takeya/ประกัน Sompo 

>>> www.gographjapan.com/category/คูปองส่วนลดญี่ปุ่น/

Fukuoka

ขับรถเที่ยวคิวชู เราก็เริ่มต้นที่ฟุกุโอกะ เมื่อบินถึง เราไม่ไปแล้วที่ฮิตๆหลายที่เราไปมาหมดแล้ว ตามไปดูรีวิวฟุกุโอกะ ของเราได้นะ เราเลือกมาเที่ยวเก็บสตรอเบอรี่กินแบบไม่จำกัดกันดีกว่า ถึงฤดูสตรอเบอรี่พอดี

เราสามารถเก็บสตรอเบอรี่ได้ตั้งแต่เดือนธันวา – พฤกษภาคม สวนก็มีให้เลือกหลายสิบสวนเลยที่ให้เลือกเก็บ สวนสตรอเบอรี่ต่างๆจะอยู่ออกนอกตัวเมืองฟุกุโอกะ เหมาะสำหรับนั่งรถมากกว่า แต่ก็ยังสามารถมาเองได้ด้วย

Akiyama Gardening

เรามาที่สวน Akiyama สวนนี้จะปลูกสตรอเบอรี่พันธุ์ Amaou เป็นหนึ่งในพันธุ์ที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ลูกใหญ่ และหวาน ควรมาในช่วงเช้าประมาณ 10 โมงจะได้สตรอเบอรี่ที่สดใหม่ และเหลือลูกที่ขนาดใหญ่เยอะ

นักเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นขึ้นไป 2,500 เยน (รับประทานได้ไม่อั้น 60 นาที) นักเรียนชั้นประถม 2,000 เยน (รับประทานได้ไม่อั้น 60 นาที) เด็กตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป 1,500 เยน (รับประทานได้ไม่อั้น 60 นาที)

สามารถนำสตรอเบอร์รี่กลับบ้านได้ (250 เยนต่อ 100 กรัม)

สตรอเบอรี่ลูกสีแดงใหญ่ แนะนำให้เลือกลูกที่ใหญ่กำลังดี ไม่ใหญ่ไป ไม่เล็กไป รสจะหวานมาก

ที่ญี่ปุ่น นิยมทานนมข้นหวานกับสตรอเบอรี่ ลองทานดู นมข้นญี่ปุ่นรสจะไม่หวานมาก รสนมเข้มข้นดีทานกับสตรอเบอรี่เข้ากัน

รู้สึกเหมือนเด็ดกินไปเท่าไรก็ไม่ลดไปจากเดิมเลย ฮ่าๆ กินไปประมาณ 20 ลูกก็เริ่มอิ่มแล้ววว ยอมแพ้ แต่คุ้มค่ากับ เพราะปกติ พันธุ์ Amaou นี้ใครในซุปเปอร์แพงอยู่ไม่กี่ลูกก็พันเยนแล้ว

นอกจากสวน Akiyama ยังมีสวนอื่นๆรอบเมืองฟุกุโอกะด้วยนะ

อ่านหารายละเอียด สวนที่เปิดให้บริการบุฟเฟ่ต์เก็บสตรอเบอรี่ได้ที่ http://www.fukuoka-now.com/en/2017/01/fukuoka-strawberry-picking-guide/

บางสวนต้องจองไปด้วย ลองอ่านดู

Ichiran

ร้านราเมงชื่อดีที่คนไทยน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เริ่มต้นที่ คิวชู นี่แหละ คนจะเรียกว่าราเมงข้อสอบ เพราะเวลากินจะแบ่งเป็นห้องๆ ของใครของมัน แล้วมีกระดาษมาให้จดๆ อยากได้เส้น ซุป แบบไหน ก็จดเอา เหมือนทำข้อสอบเลย

วันนี้เรามาทานร้านอิจิรัน ที่สาขาใหญ่กัน อยู่ที่ย่าน Tenjin

เวลาจะสั่งก็ให้ดูเมนูก่อนว่าจะเลือกอะไร ถ้าช่วงเวลาทานข้าว คนจะเยอะหน่อย ต้องลองคิวนิดหนึ่ง
กดตู้ว่าจะเอาอะไร จ่ายตังแล้วจะได้ใบมาก็เอาไปให้พนักงาน

เข้าคอกทำข้อสอบกัน ฮ่าๆ เหมือนจริงๆ มาถึงมีกระดาษ ปากกาพร้อมให้จด

คนมาครั้งแรกก็ลองสั่งแบบที่เขาแนะนำ คือวงตรงกลางนั้นแหละ แต่ใครต้องการเผ็ดๆก็เพิ่มพริกเยอะๆ

เราสั่งไข่ดองเกลือมาเพิ่มด้วย อยากบอกต้องสั่งเพิ่มมากินกับราเมงเลย

มีเมนูของหวานด้วย ถ้าเราสั่งไว้ พนักงานจะเอาถาดมาวางไว้ข้างๆ ถ้าทานราเมงเสร็จเมื่อไร ก็เอาถาดไปวางตรงเซ็นเซอร์จะมีพนักงานมาเสิรฟของหวาน

มาแล้วราเมงข้อสอบชื่อดัง ที่ใครมาฟุกุโอกะแล้วต้องกินให้ได้ ราเมงอิจิรัน เป็นราเมงสไตล์ฮากาตะ รสชาติซุปจะเข้มข้นจากกระดูกหมู เส้นราเมงแบบปกติ จะเป็นแบบเส้นเล็ก เหนียว กัดไปมีความเด้งคล้ายๆบะหมี่ของจีนอยู่ ซุปรสชาติกลมกล่อมมากกว่าฮากาตะทั่วไปที่รสชาติค่อนข้างหนักกว่านี้ และด้วยซอสพริกที่ราดออกมาทำให้ซุปมีรสชาติเผ็ดหน่อยๆ ทำให้ซุปนี้ซดได้คล่องคอมากขึ้น อร่อยสมคำร่ำลือเลย

ชาชูแผ่นบางๆ นุ่มรสชาติดีที่เดียว ใครอยากกินเยอะกว่านี้ก็สั่งเพิ่มได้อีกนะ

ไข่ดองเกลือของอิจิรันที่เราอยากขอให้ลอง เป็นไข่ต้มยางมะตูมรสเค็มอ่อนๆ อร่อย

ตบท้ายด้วยของหวานเป็นพุดดิ้งชาเขียว ราดด้วยซอสชาเขียว รสไม่หวานมาก เหมาะทานหลังราเมงร้อนๆมาก

ใครมาญี่ปุ่นก็มาทานเย ไม่ผิดหวัง อร่อยมากของจริง ไม่โม้!

Ohori Park

สวนกลางใจเมืองฟุกุโอกะ สร้างมาตั้งแต่ปี 1926 การออกแบบของสวนเป็นรูปแบบจีน มีบึงน้ำขนาดขนาดใหญ่ และมีสะพานข้ามไปเกาะตรงกลาง มีศาลาทรงจีนอยู่กลางบึงน้ำ

เป็นสวนที่ขนาดใหญ่มาก ภายในมีสวนญี่ปุ่น สวนดอกไม้ และพิพิธภัณฑ์ Fukuoka Art เหมาะมาช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้จะเต็มไปทั่้งสวน กับ ใบไม้ร่วง ก็จะเต็มไปด้วยใบไม้สีส้ม

บรรยากาศในสวนดีมาก ใครมาฟุกุโอกะหลายคน ก็ลองมาเดินเล่นที่นี้ดูนะ ชิวดี

มีโรงละครโนห์ ด้วย อยากดูมาก แต่เพิ่งแสดงไปและไม่มีเวลาพอ เลยอดไว้คราวหน้าจะดูนะ


Fukuoka Gokoku Shrine

ศาลเจ้า Gokoku เป็นศาลเจ้าสร้างเพื่ออุทิศให้คนในช่วงสงคราม Boshin หรือสงครามฟื้นฟูสมัยเมจิ ที่เป็นสงครามกลางเมืองยึดอำนาจรัฐบาลโชกุนโตกุกาว่า เพื่อคืนอำนาจสู้จักรพรรดิและเปลี่ยนแปลงญี่ปุ่นสู่สมัยใหม่ เป็นการสิ้นสุดยุคเอโดะนั้นเอง

ศาลเจ้า Gokoku ตั้งอยู่ใกล้กับสวน Ohori ด้านหน้าจะเจอกับเสาโทริอิที่ทำจากไม้ฮิโนกิ (ไม้ที่นิยมไปทำบ่อออนเซน) สูงถึง 13 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นโทริอิที่ทำได้ไม้ทั้งต้นใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลย

ด้านในเป็นลานกว้าง และปักธงตลอดสองฝั่ง บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ แต่ถ้าช่วงเทศกาล หรือวันขึ้นปีใหม่จะเต็มไปด้วยผู้คนแต่คิวยาวออกไปถึงโทริอิเลยทีเดียว

เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าชินโตที่สำคัญมากในฟุกุโอกะ และสวยงามมาก

Tochoji Temple

วัดหลวงพ่อโตแห่งฟุกุโอกะ เป็นวัดหลักของนิกายชินออนของภูมิภาคคิวชู เป็น 1 ในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น

ด้านในวิหารมีองค์ไดบุสสึ หรือหลวงพ่อโต พระใหญ่แห่งฟุกุโอกะ (ห้ามถ่ายรูปด้านในเลยไม่มีรูป) เป็นพระพุทธที่สวยงามมาก สร้างจากไม้ทั้งองค์สูงถึง 10.8 เมตรและหนักมากกว่า 30 ตัน ใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ปีเลย องค์พระแกะสลักอย่างสวยงาม ด้านใต้สามารถมุดเข้าไปด้วย เป็นเหมือนปริศนาธรรม ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไง ให้ลองมามุดดูเอาเองนะ ตื่นเต้นดี ฮ่าๆ แต่แค่มาชมองค์พระก็คุ้มค่ามากแล้ว ที่ได้มาเยือนวัดนี้ ต้องมานะ สำหรับคนสายธรรม

Kushida Shrine

อีก 1 ศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างมาแล้วกว่า 1200 ปี เป็นศาลเจ้าของเทพโอคุชิดะ ซามะ มีความเชื่อว่ามาขอพรเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว และธุรกิจรุ่งเรือง

ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบชินโตโบราณ สวยงามมาก และวัดคูชิดะ เป็นวัดศูนย์กลางของงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฟุกุโอกะด้วย งาน Hakata Gion Yamakasa จัดช่วงกลางเดือนกรกฏาคม

ดูรายละเอียดงานสถาปัตยกรรมของศาลเจ้า สวยมาก รายละเอียดเยอะมาก

ด้านข้างจะเจอกับ Kazariyama เป็นแทนสูงขนาดใหญ่ถึง 10 เมตร หนักกว่า 2 ตัน ใช้งาน Hakata Gion Yamakasa สมัยก่อนมีไว้แข่งลากกันไปตามถนนต่างๆ แต่พอต่อมามีเสาไฟฟ้า ทำให้ติดสายไฟ เลยยกเลิกการแบกตามถนนกลายเป็นประดับในงานเฉยๆเท่านั้น ในเทศกาลจะใช้ที่ขนาดเล็กลงมาที่ 5 เมตรแต่น้ำหนักก็มากอยู่ดีตั้ง 1 ตันเลยทีเดียว ใช้คนเกือบครึ่งร้อยในการลาก ตัวแท่นจะไม่มีล้อ เวลาลากแท่นก็ต้องราดน้ำที่พื้นเพื่อลดแรงเสียดทานเวลาลาก

ถือว่าเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ใหญ่ที่สุด และคนมาดูมาที่สุดในญี่ปุ่นเลย น่ามาชมมาก งานมีในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมของทุกปี อยากดูความเจ๋งของเทศกาลนี้มาก

ใกล้ศาลเจ้าฝั่งตรงข้ามด้านหน้ามี Hakata Machiya Folk Museum เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่อยู่ในบ้านโบราณสมัยเมจิของฟุกุโอกะ ทุกอย่างยังไว้ทรงแบบดั้งเดิม มีข้าวของเครื่องใช้แบบเก่า และไฮไลท์คือเครื่องทอผ้า ที่ใช้ทอผ้ากันในสมัยนั้น และมีการแสดงทำให้ดูด้วย

ลักษณะกำแพงเฉพาะของฟุกุโอกะ ที่เอากระเบี้ยงที่แตกมาใส่ประดับในกำแพง

Rakusui – en

  • ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 100 เยน เด็ก 50 เยน
  • เปิด 9.00 – 17. 00 ปิดทุกวันอังคาร

เป็นสวนประดิษฐ์แบบญี่ปุ่น เดินไม่ไกลจากสถานี Hakata ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น ความพิเศษของสวนนี้ คือมีลูกเล่นแบบธรรมชาติในสวน เช่น มีแอบหลุมใต้สวน เวลาน้ำไหลลงไปจะได้ยิ่งเสียงก้องออกมา และในช่วงใบไม้ร่วง สวนแห่งนี้เหมาะแก่การมาดูใบไม้แดงมากๆอีกด้วย

มีบริการชาและขนม ชมสวนไปด้วย

บรรยากาศสวนญี่ปุ่น

บรรยากาศห้องชงชา ทุกห้องเป็นในรูปแบบของญี่ปุ่น
เหมาะแก่การชิบชาไป ชมสวนไป สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://rakusuien.net/english/

Canal City

ห้างดังกลางเมืองฟุกุโอกะ ไม่ต้องอะไรมาก อยากได้แบรนด์อะไร รองเท้า เสื้อผ้าอะไร มีครบ ที่เดียวพอจบทุกอย่างได้ขอแน่นอน

ชั้นบนมี Ramen Stadium แหล่งรวมร้านราเมงดังๆทั่วญี่ปุ่น โดยจะเอามาแข่งกันทุกร้าน ว่าร้านไหนจะคนนิยมมากที่สุด อยากลองราเมงอร่อยมานี้เลย

ไฮไลท์อีกอย่างของห้าง Canal City คือมีการแสดงแสงสีที่กลางห้างทุกวันช่วง 1 ทุ่ม เรามาครั้งนี้ฉายเป็นตอนวันพีชด้วย โชคดีมาก ชอบเป็นตอนที่ลูฟี่สู้กับโดฟลามิงโก พอดี เจ๋ง สนุกมาก (ชอบวันพีชเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ฮ่าๆ ฟิน)

Hanamidori Mizutaki

อาหารขึ้นชื่ออีกอย่างของฟุกุโอกะ ที่คนไทยไม่ค่อยได้ทานนัก คือ Mizutaki หรือหม้อไฟไก่ เราก็เพิ่งรู้ว่าเมืองนี้ดังเรื่องไก่มากๆ โดยร้านนี้เป็นร้านที่เชี่ยวชาญเรื่องไก่มากๆ ไก่ของร้านใช้สายพันธุ์ไก่เฉพาะ พันธุ์ Hanamidori ที่ผสมพันธุ์ขึ้นมาใหม่เพราะใช้ไก่ฟ้าที่ตอนแรกเป็นสัตว์สงวน เลยต้องผสมกับไก่บ้านพันธุ์ดี จนมาเป็นไก่พันธุ์ Hanamidori ที่ใช้ในร้าน เนื้อของไก่นี้มีความเหนียวนุ่มและรสเข้มข้นเป็นพิเศษ และมีรสอุมามิไปจนถึงกระดูก พนักงานขายที่นี้เขาดูภูมิใจมาก ในการนำเสนอไก่ที่ใช้ในร้านของเขา

เสิรฟออเดอร์มาก่อนเป็นขิงดอง ไข่ต้มกับอะไรมั้งไม่รู้ แต่อร่อย ฮ่าๆ

มีเนื้อไก่สดๆมาให้ชมก่อน อันนี้ไม่ได้ให้กินเลยนะใส่หม้อก่อน ฮาๆ

ซักพักเริ่มทยอยเอามาวางเต็มโต๊ะ แต่ไม่ต้องห่วงว่าเราต้องทำยังไง จะมีพนักงานมาบริการทำให้เราถึงโต๊ะเลย

ซาซิมิไก่ ทางร้านเขามั่นใจว่าไก่เขาดีแบบทานซาซิมิยังได้ ใครไม่เคยลอง ได้แล้วที่นี้ เราเคยกินที่อื่นมาแล้ว แต่ลองที่นี้มันอร่อยมาก เนื้อไก่เข้มข้นแบบไม่ต้องปรุงเลย

พนักงานมาแล้ว เริ่มแรกก็ให้เราซดซุปจากกระดูกไก่ก่อน บอกเลยยยย ร้อนมากกกก ลวกปากเลย ฮ่าๆ เตือนไว้ก่อน เวลาซดให้ค่อยๆระวังนะ รสชาติของซุปมีความอุมามิมาก คือเป็นรสอร่อยแบบเข้มข้น ไม่ใช่เข้มข้นแบบซุปกระดูกหมู แต่รสแบบนุ่ม เข้มๆ เออ อร่อย ไม่คิดว่าจะมาจากไก่เลย

แล้วก็ตักไก่ให้เรากินมา 1 ชิ้น ทานพร้อมซอสปอนซึสูตรพิเศษของร้านกับ Yuzukocho เป็นเครื่องปรุงท้องถิ่นของ คิวชู เป็นผิวส้มยูซุผสมกับพริก ออกรสเผ็ดเปรี๊ยว แนะนำเลยว่าต้องใส่ลงไป เนื้อไก่จะอร่อยขึ้นเยอะ และน่าจะถูกปากคนไทยด้วย เพราะรสเผ็ดเปรี๊ยวของ Yuzukocho

ต่อมาก็เนื้อไก่บด รสชาติดีมาก เข้มไปด้วยรสไก่


ตามด้วยผักลงไป อันนี้เขาจะปล่อยให้เรากินอย่างสบายใจแหละ

รอต้มผักจนสุก น้ำซุปจะทำให้ผักหวานขึ้นไปอีก เป็นเมนูดูสุขภาพมากเนอะ

เมื่อทานผักกับไก่ หมดแล้ว เหลือซุป ตามสูตรญี่ปุ่นก็ใส่ข้าวลงมาจ้าาา (ตอนนี้อิ่มแบบไม่รู้จะกินไงไว้ 55) เขาจะมีให้เลือกเป็นข้าวต้ม หรือ จะใส่เส้นอุด้งลงไป

ใส่ไข่ลงไปตาม คนๆรอจนสุก ขนาดไข่เขายังพรีเซ็นต์ว่าไข่เขาใช้ของที่ดีที่สุด ตอกใส่ปากได้เลย สดมาก แล้วเราก็ทานจนหมดหม้อ ขนาดอิ่มนะเนี่ย เพราะมันอร่อยจริงๆ

ตบท้ายด้วยของหวาน และโฮจิชะ ล้างปากจบไปอีก 1 มื้อ กับอาหารท้องถิ่นฟุกุโอกะ ใครไม่รู้จะกินอะไรแล้ส ให้ลอง อร่อยมากๆๆๆๆๆ ร้าน Mizutaki มีอยู่หลายร้านหลายราคา ลองทางดูกันนะ

Oita

เรามาต่อที่จังหวัดโออิตะ โออิตะตั้งอยู่แถวตะวันออกของ คิวชู เป็นจังหวัดที่ดังเรื่องออนเซนมากตั้งแต่อดีตแล้ว จริงจังหวัดนี้นอกจากออนเซน ยังมีศาลเจ้าเก่าแก่อีกมากมายอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน

Yufuin

เรามาที่เมืองยูฟุอิน จังหวัดโออิตะ เมืองออนเซนเล็กๆ สุดโรแมนติกนี้คนไทยก็น่าจะคุ้นเคยกันดีเนอะ มีหลายรีวิวแล้ว แต่ครั้งนี้เรามาเจอหิมะที่คิวชูจ้าาา ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะเจอหิมะที่ยูฟุอินเลย เออสวยไปอีกแบบ

Kinrin Lake

อยู่ด้านหลังของเมืองเมือง เป็นบึงน้ำเล็กๆ แต่ความพิเศษคือเป็นน้ำร้อน เมืองนี้ทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยออนเซน ตอนเช้าจะมีไอน้ำลอยขึ้นมาเต็ม ยิ่งช่วงฤดูหนาวจะยิ่งเห็นเยอะมาก ลอยขึ้นมานึกว่าปางอุ๋ง

ถ้าวนไปด้านหลังของทะเลสาบมีที่แช่เท้าด้วยนะ ตรงนี้คนมักไม่ค่อยมาด้วยนะ แล้วปลาก็มักมาว่ายน้ำรวมตัวอยู่แถวนี้ช่วงฤดูหนาว เพราะน้ำร้อนไหลออกมาตรงนี้

Cafe La Ruche

แกลอรี่คาเฟ่ติดกับทะเลสาบ

ในคาเฟ่มีส่วนระเบียงเห็นวิวทะเลสาบ Kirin

เราก็สั่งขนมมาทานพร้อมชมวิวไปด้วย เป็นเซตพุดดิ้ง กับ ครีมโรล

ครีมโรลก็ดีพอๆกัน

หิมะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ หมอกก็ขึ้นมาจากทะเลสาบเยอะขึ้น สวยมาก

เรามาเดินต่อที่ตัวเมืองเดินเรื่อยตามถนน มีร้านขนม อาหาร ที่ระลึก เต็มตลอดถนนสองฝั่ง

ร้านขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับไม้

พวกของฝากโอท๊อปก็เยอะ

เดินออกมาด้านข้างๆหมู่บ้านบ้าง วิวดีมาก

โคร๊อกเกะที่นี้ก็อร่อยมาก ต้องกินเลย

Yufu Mabushi Shin

ร้านอาหารชื่อดังของยูฟุอิน มาถึงที่นี้ต้องห้ามพลาดเลย เรามาช่วงกลางวันคนต่อคิวยาว เป็นร้านขาย Mabushi หรือข้าวหน้าแบบต่างๆ ที่กินได้หลากหลายแบบ

จะมีข้าวหน้าทั้งหมด 3 แบบ ไก่ ปลาไหล และเนื้อ

เราสั่งเป็นไก่ไป ออเดริ์ฟมาก่อนเลย แถวยาวววว หลากหลายมาก ส่วนมากเป็นพืชผักท้องถิ่น

มาแล้วข้าวหน้าไก่ของเรา

เซตรวมทั้งหมด

เวลาทานให้เราแบ่งข้าวมาใส่ถ้วยแล้ววางเครื่องเคียงตามลงไป และอย่าลืมใส่ Yuzukocho ของที่นี้ด้วยเป็นข้าวหน้าไก่พร้อมเครื่องเคียงแบบต่างๆ

ชามต่อมาให้เราลองกินแบบใส่ชุปดาชิ เป็นชาซึเคะ ข้าวต้มชานั้นเอง ซดคล่องๆคอ อันนี้เราชอบทั้ง 2 แบบเลยอร่อยทั้ง 2 แบบ ถ้าได้มาอีกรอบคงได้ลองทานเนื้อของที่นี้ น่าจะอร่อยมาก

Beppu

อีกเมืองที่อยู่ในจังหวัดโออิตะเหมือนกัน ห่างไปไม่ไกลจากยูฟุอิน เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องออนเซนมานานแล้ว เมืองนี้ทั้งเมืองมีแต่ออนเซน แบบว่าขุดตรงไหนก็เจอน้ำร้อนพุ่งขึ้นมาเลย

สถานที่เที่ยวดังที่นี้ก็คือ Jigoku Meguri หรือ นรก 8 บ่อ คือบ่อน้ำพุร้อนนั้นเอง สามารถซื้อตั๋วเข้าแบบเหมาทีเดียว 2000 เยนได้

Umi Jigoku บ่อทะเลเดือด เป็นบ่อที่ออกมามีสีฟ้าสวยงามมาก เหมือนยังกับอยู่ในทะเลใส ที่เป็นสีฟ้านี้เพราะมีแร่โคบอลต์ออกมา บ่อนี้ร้อนเกินกว่าจะลงอาบได้ เพราะสูงถึง 98 องศาเลย แต่ใครอยากอายเขาก็มีผงน้ำแร่สีฟ้าขายด้วยนะ

Yama Jigoku บ่อหุบเขานรก อยู่ใกล้ๆกับบ่อทะเลเดือด แต่กับเป็นสีแดง และมีควันพุ่งออกมาตลอดเวลา และเสียงดังฟู่ๆๆ ตลอดจนว่าเป็นเสียงมาจากนรกกัน

มีโรงเพาะต้นไม้เขตร้อนด้วย ใช้ความร้อนจากบ่อน้ำพุร้อน

Oniishibozu Jigoku บ่อโคลนเดือด เป็นบ่อน้ำร้อนที่เป็นโคลนปุดๆขึ้นมา แปลกดี

ใกล้ๆบ่อโคลนเดือด มีที่ให้นั่งแช่เท้าด้วย ดีมาก

Kamodo Jigoku นรกกะทะทองแดง เป็นบ่อที่อุณหภูมิสูงมากจนชาวบ้านเอามาใช้ทำอาหารกันเลย

ข้างในมีบ่อย่อยๆถึง 8 แบบ

มีให้ชิมน้ำจากบ่อน้ำแร่ แต่ร้อนมาก ระวังลวกปาก

บ่อกระทะทองแดง ก็ต้องมีของกินให้กินซิ มีพวกไข่ต้ม และข้าวโพด ที่ใช้พลังความร้อนจากบ่อทำให้สุก ทานไปแช่เท้าไปมีความสุขจริงๆ

Oniyama Jigoku บ่อหุบเขาปิศาจ บ่อนี้น้ำไม่ร้อนมาก เป็นน้ำอุ่นๆ เลยเลี้ยงจระเข้ไว้เลย เลี้ยงไว้เต็มบ่อ มาดูทั้งบ่อน้ำร้อน แถมได้ดูจระเข้อีก

Shiraike Jigoku บ่อนรกขาว บ่อนี้น้ำจะเป็นสีขาว รอบจะแต่งเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่น

Tatsumaki Jigoku บ่อน้ำวน มีน้ำพุร้อนพุ่งออกมาทุก 30-40 นาที เวลามาถึงต้องนั่งรอไปกว่าจะพุ่งขึ้นมาเอง น้ำพุจะพุ่งออกมาเป็นเวลาประมาณ 6-10 นาที ความแรงก็ต่างกัน ก็นั่งลุ้นกันไปนะว่าน้ำพุจะมาเมื่อไร ระหว่างรอมีร้านขายของฝากขนาดใหญ่ด้วย ช๊อปกันไป แนะนำลองกินพุดดิ้งน้ำแร่ นะ อร่อย

Chinoike Jigoku ถึงบ่อสุดท้ายแล้ว บ่อสีเลือด บ่อนี้เป็นบ่อสีแดงขนาดใหญ่ สีนี้เพราะมีธาตุเหล็กอยู่มาก เลยเกิดสีสนิมขึ้นมา บางครั้งแดงจนคล้ายสีเลือดเลยทีเดียว

เป็นอีกเมืองที่น่าแวะมาพักแช่ออนเซน หรือจะเที่ยวรอบก็ได้ๆ กับเบ็บปุ

ผ่านครึ่งทางของทริป ขับรถเที่ยวคิวชู ต่อไปเรานั่งรถไปต่อที่จังหวัด Miyazaki ระหว่างทางไปเราแวะที่จุดพักรถได้บนเขาชมวิวเมืองเบ็บปุ แบบว่าสวยมากกกกก เป็นเมืองอยู่ในอ่าว มีภูเขาอยู่ได้หลัง เหมาะสำหรับคนที่เช่ารถขับเอง หรือ ไปกับทัวร์ มีโอกาสก็แวะชมได้นะ เป็นวิวที่สวยมากๆ

Kokonone Yumeji Suspension Bridge

สะพานแขวนสำหรับคนเดินที่ยาวที่สุด และสูงที่สุดในโลก สูงถึง 173 เมตร และยาว 375 เมตร ยาวมากกก ลมพัดเย็นตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่เราไปลมพัดแรงเป็นพิเศษ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ เดินไปขาสั่นไป โอ๊ยยย สูงมากกกกกก มือนี้จับราวตลอดเวลา เสียวตั้งแต่ก้าวลงมาเดิน จนถึงกลางสะพาน แต่สะพานไม่มีความโยกใดๆเลยนะ  ตรงกลางสะพานก็มีเจ้าหน้าที่ยืนเฝ้าอยู่ ดูเขายืนชิวๆเลย เจ้าหน้าที่สองคน มีไว้ดูแลความปลอดภัย และป้องกันคนกระโดดลงไป เขาบอกว่าคนจะปีนขึ้นไปได้ เจ้าหน้าที่ก็จะรีบวิ่งมาห้ามทันแล้ว

เดินไปเรื่อยๆ แล้วหันด้านขวาจะเห็น น้ำตก Shindonotaki เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นเลย

เมื่อมาถึงกลางสะพาน ตรงกลางจะเห็นเป็นโล่งๆเลย แบบว่ามองลงไปนี้ ใจหายว๊าบบบบ สูงมาก 55

วิวสวยมาก อยู่ระหว่างทางไปจากจังหวัดโออิตะ ไป มิยาซากิ ผ่านแล้วต้องแวะนะ สวยยยย และ เสียววว

ระหว่างเดินทางเจอวิวนี้เข้าไปสวยมากกกกก ไม่คิดว่าจะเจอวิวคิวชูแบบนี้เลย ให้ดูภาพนี้ก็คงไม่มีใครคิดหรอกว่าคือ คิวชู เพราะมีหิมะเยอะขนาดนี้ วิวด้านหน้าเขาว่าเป็นหลุมแผ่นดินที่เกิดจากอุตกาบาตพุ่งชนเมื่ออดีต ทำให้พื้นที่นี้เป็นลานกว้างอย่างที่เห็นในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในวิวที่ประทับใจที่สุดเลยของญี่ปุ่น

พระอาทิตย์ตกสวยมาก

Miyazaki

จังหวัดมิยาซากิ อยู่แถวๆตะวันออกเฉียงใต้ของคิวชู เป็นจังหวัดที่สมัยก่อนเป็นที่เที่ยวที่ดังมาก คนญี่ปุ่นทุกคนต้องมาที่นี้เพื่อชมธรรมชาติ และแช่ออนเซนที่นี้ จังหวัดนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ยุคโบราณ มีการขุดค้นเจอวัตถุโบราณมากมาย เชื่อว่าเป็นแหล่งอารยธรรมคนญี่ปุ่นยุคแรกๆ ตำนานของเทพ Amaterasu เทพแห่งพระอาทิตย์ของศาสนาชินโต และศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และแหล่งชมธรรมชาติที่สวยที่สุดที่หนึ่งเลย จังหวัดมิยาซากิจึงเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ที่น่ามาเยี่ยมชมให้ได้ซักครั้ง

Takachiho

เมืองเล็กๆกลางหุบเขา เป็นแหล่งท่องเที่ยวฮิตมากในอดีต เพราะเป็นแหล่งออนเซน และธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ศาลเจ้าที่เก่าแก่ขนาดต้นกำเนิดของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

Takachiho Hotel

เรามาถึงในช่วงเย็นพอดี ก็รับประทานข้าวกันก่อน ชุดไคเซกิของโรงแรมใช้อาหารท้องถิ่นต่างๆ อย่างเรียบง่าย แต่อร่อยมีซาซิมิ ชาบูปลาไท ราเมง เทมปุระและของหวาน ส่วนของห้องพักเป็นญี่ปุ่นสไตล์เรียวกัง

โรงแรม Takachiho Hotel โรงแรมออนเซนขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก และราคาไม่แพงเลยมาที่นี้ก็แนะนำนะ

ที่เมืองนี้มีการแสดงโบราณที่ต้องมาชมให้ได้เรียกว่า Yokagura เป็นการรำแสดงถวายแก่เทพเจ้า เริ่มตอน 2 ทุ่มที่ศาลเจ้า Takachiho เรื่องราวประมาณว่า เรื่องเทพเจ้า Amaterasu ไปแอบอยู่ในถ้ำแล้วเทพ Amaterasu เป็นเทพแห่งพระอาทิตย์พอท่านไปแอบ โลกเลยเกิดความเดือดร้อน ทั้งหนาวทั้งมืด เลยเดือนร้อนที่เทพต่างๆ จะหาวิธีช่วยเลยคิดกลอุบายจัดงานรำแสดงซะเลย เทพเจ้าแต่ะองค์ก็แสดงไปเรื่อยๆ จนเกิดความสนุกสนาน หัวเราะกันใหญ่ เทพ Amaterasu เลยสนใจว่าเล่นอะไรกันก็เลยยอมออกมาข้างนอก แสงสว่างจึงกลับมาอีกครั้ง

ชาวบ้านก็เลยมีการจัดแสดงระบำนี้ทุกปีในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์

การแสดงแต่เดิมมีทั้งหมด 33 ตอนในช่วงเทศกาลจะแสดงไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ฟ้ามืดจนครบทุกตอนจะเช้าพอดี แต่ถ้าเรามาดูที่ศาลเจ้า Takachiho จะเป็นการแสดงเพื่อ 4 ตอนสำคัญเท่านั้น ตอนแรกเป็น เทพ Izanagi เทพผู้สร้างดินแดนญี่ปุ่น และเทพ Izanami ก็จะออกมาต่อเป็นเทพผู้สร้างดินแดนญี่ปุ่นเหมือนกัน เป็นตอนเทพ Ame-no-Uzume แสดงบทที่ออกทะลึ่งหน่อย จนเทพ Amaterasu ยอมออกมา ตอนที่เทพ Tajikarao เทพที่มีพลังมหาศาลยกก้อนหินที่ปิดกำแพงถ้ำออก

เทพ Izanagi

เทพ Izanami

เทพ Tajikarao ผู้มีพลังกำลังมหาศาล

Ame-no-Uzume เป็นไฮไลท์ของการแสดง Yokagura เลยจะออกบทที่ทะลึ่งหน่อย จนทำให้ทุกคนหัวเราะจนเทพ Amaterasu ยอมออกจากถ้ำมาแอบดูเลย

ค่าการชมการแสดง 700 เยน มาถึง Takachiho ควรมาชมให้ได้นะ การแสดงยาวประมาณ 1 ชั่วโมง

Takachiho Gorge

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังที่สุดของ Takachiho คิวชู หุบเขา Takachiho ที่มีแม่น้ำ Gokase ไหลผ่านและมีน้ำตกไหลลงมากลางหุบเขา สวยเกินคำบรรยาย ต้องมาเห็นของจริงให้ได้ เป็นหนึ่งในวิวทุกคนญี่ปุ่นมักจะเห็นในบ้าน มักจะเห็นฉากของ Takachiho Gorge ประดับอยู่ซักที จนขนาดไกด์ของเราที่พาเรามาพูดว่าอยู่จนถึงอายุ 60 แล้วเพิ่งจะได้เห็นภาพนี้ที่อยู่ในห้องของพ่อทุกวัน

มาที่นี้ควรมาแต่เช้าเพราะคนจะเริ่มมาเยอะมากและต้องรอคิวพายเรือค่อนข้างนาน ค่าเช่าเรือนั่ง 30 นาที 2000 เยน นั่งได้ 3 คน ควรจองล่วงหน้านะ

ปกติเปิดทุกวัน แต่จะปิดถ้าน้ำเชี่ยว หรือน้ำตื้นเกินไป

เวลาพายเข้าไปก็ค่อยๆนะ อย่าเข้าใกล้น้ำตกมาก ฮ่าๆ ตอนแรกก็พายวนอยู่กับที่ พายไม่เป็นนิ แต่พอหัดไปเรื่อยๆก็เป็นเอง

พายจนถึงอีกด้าน จะเห็นวิวที่หลายคนเห็นบ่อยที่สุด เป็นหนึ่งในวิวธรรมชาติ ที่คนญี่ปุ่นต้องเคยเห็น

เราไปช่วงปลายมกรา อากาศปีนี้ค่อนข้างหนาว น้ำค้างแข็งเป็นน้ำแข็งเลย

เดินข้ามสะพานมาชมน้ำตกอีกฝั่งหนึ่ง สวยมาก เขาว่าที่หุบเขา Takachiho นี้เป็นแแหล่ง Power Spot คือมาตรงนี้เพื่อรับพลังงาน แค่มาเที่ยวก็ทำให้ชีวิตดีแล้ว เออดีเนอะ

เป็นวิวที่น่าประทับใจมากของทริปนี้เลย ทำให้ยิ่งอยากมาเห็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงเลยว่าจะสวยขนาดไหนกัน

Takachiho Shrine

ศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดที่หนึ่งอายุมากกว่า 1200 ปี เป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดของ Takachiho เชื่อว่าเป็นที่ประทับของ Amaterasu-omikami ราชินีของเทพเจ้าทั้งปวงในศาสนาชินโต

เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่คงเอกลักษณ์ได้อย่างสวยงามอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่หลายต้น มีคนญี่ปุ่นบอกไว้ว่าถ้าจะดูว่าศาลเจ้าไหนเก่าแก่ให้ดูที่ต้นไม้ เพราะยิ่งต้นไม้ในศาลเจ้ายิ่งสูงยิ่งใหญ่เท่าไร แปลว่าศาลเจ้านี้ต้องอยู่มานานมากแล้ว เพราะคนญี่ปุ่นจะไม่ตัดต้นไม้ในบริเวณศาลเจ้า

ด้านข้างศาลเจ้า จะมี ต้นสนคู่ มีความเชื่อว่าถ้าคนรัก หรือ เพื่อน หรือคนในครอบครัว จับมือแล้วเดินวนรอบ 3 รอบจะทำให้ชีวิตมีแต่ความสุข เจริญรุ่งเรือง

Amano Iwato Shrine

เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าที่สำคัญของเมือง และมีตำนานของเทพ Amaterasu อยู่ด้วย เป็นตำแหน่งของถ้ำที่เทพพระอาทิตย์ไปแอบอยู่นั้นเอง Amano Iwato เป็นศาลเจ้าชินโตที่สวยงามมาก ทุกส่วนใช้สถาปัตยกรรมแบบโบราณ สวยจริงๆ

ทางเดินลงมาถ้ำด้านล่างต้องเดินต่อลงมาจากข้างศาลเจ้า ระหว่างทางมีคาเฟ่วิวสวยอยู่ด้วย

เดินลงมาเรื่อยๆ จนถึงด้านล่างเป็นลำธารก็เดินเลาะตามลำธารมาเรื่อยๆ

แล้วจะเจอกับศาลเจ้าเล็กๆ Amano Yasukawara เป็นที่ๆตำนานว่าเทพ Amaterasu มาแอบอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ภายในถ้ำจะมีก้อนหินเรียงตั้งสูงอยู่เต็มเลย เวลาคนมาที่ศาลเจ้านี้กันก็จะเอาหินนี้มาเรียงกันเต็ม สวยแบบมีความขลังดี

Kunimigaoka

จุดชมวิวกลางเมือง Takachiho ที่จะเห็นวิวทั่วทั้งเมืองนี้หมดเลย เป็นสถานที่เชื่อว่าจักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่นนามว่า Jimmu จุติที่นี้ และมีตำนานต่อมาว่า Takeiwatatsu-no-Mikoto หลานของท่าน Jimmu ก็ขึ้นมาที่นี้เพื่อดูวิวทั้งประเทศนี้ จุดนี้เลยได้ชื่อว่า Kunimigaoka แปลว่า เนินเขาที่สามารถดูได้ทั้งประเทศ ต่อมาเรื่อยๆ มีจักรพรรดิมาที่นี้เพื่อสักการะ Kunimi และขอพรให้พืชผลเจริญงอกงาม จุดนี้เลย จุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลย

สามารถมองเห็นได้ไกลถึงเขา Aso เลย

ถ้ามาช่วงเช้า อาจจะมีโอกาสเห็นทะเลหมอกแบบนี้เลย

รูปปั้น Kunimi

Takachiho Beef Steak

มาอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ คือเนื้อทากาจิโฮะ เนื้อที่นี้เป็นเนื้อวัวดำแบบโกเบนั้นแหละ แต่เลี้ยงเติบโตที่ทากาจิโฮะ เลยเป็นแบรนด์ Takachiho Beef Steak เป็นเนื้อวัวที่ได้รางวัลมากมาย ความอร่อยก็ไม่แพ้กันเลย

มีหลากเมนู แล้วแต่สั่ง มีเนื้อสดขายด้วย ลายสวยมาก

แล้วก็เสิรฟมาชุดกลางวันเสต็กเนื้อทากาจิโฮะ สั่งแบบมิเดียมแรร์ เนื้อนุ่มมาก แทบไม่ต้องกัดให้ขาดเลย ทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ฟินสุด และราคาไม่แพงเลย สำหรับเนื้อคุณภาพขนาดนี้ ดีงามมาก!! ต้องกิน

ข้างๆร้านมี ร้านขายผลิตภัณฑ์พื้นบ้านด้วยนะ ของดีๆทั้งนั้น

ความน่ารักทีนี้คือใบสูตรเมนูแจกด้วยว่าใช้ผักนี้ไปทำให้อะไรได้บ้าง น่ารักมาก ชอบ

Heiwadai Park

ออกมาไกลอีกฝั่งหนึ่งของเมือง Miyazaki มาที่สวน Heiwadai Park มี Peace Tower อยู่กลางสวน สร้างเพื่อสดุดีแก่ท่าน Jimmu โดยเชื่อว่าที่นี้เป็นตำแหน่งของเมืองหลวงแห่งแรกของญี่ปุ่น หอเคยสร้างจากหินต่างๆทั่วเอเชียตั้งแต่ปี 1940 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ

Haniwa Garden ในจุดนี้ได้มีการขุดค้นพบรูปปั้นโบราณหน้าตาประหลาดมากมายเรียกว่า Haniwa ภายในสวนจึงมีการจำลองรูปปั้น ตั้งอยู่ทั่วกว่า 400 ตัวเลย นักโบราณคดีเชื่อว่ารูปปั้นนี้ใช้แทนตำแหน่งหลุมศพของคนที่เสียชีวิตในสมัยนั้น

Kagoshima

เรามาถึงเมืองสุดท้ายแล้ว อยู่ด้านใต้สุดของ คิวชู ถือว่าเป็นอีกเมืองใหญ่ของคิวชูเลย ใหญ่เป็นอันดับสามของคิวชู ทั้งๆที่ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟ Sakurajima ภูเขาไฟที่ระเบิดบ่อยที่สุดในโลกแห่งหนึ่งเลย แบบจะระเบิดใหญ่ทุกๆ 5 ปี เวลาระเบิดควันภูเขาไฟก็จะเต็มไปทั่วทั้งเมือง แต่คนนี้กลับประยุกต์ใช้ประโยชน์จากภูเขาไฟ ใช้การเกษตรกรรม ปลูกหัวไชเท้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือใช้ผลิตเครื่องแก้ว ดินปืน จึงทำให้เป็นเมืองที่สำคัญมากตั้งแต่ในอดีต

Ajimori

อาหารที่ดังที่สุด และหลายคนน่าจะรู้จักคือ คุโรบูตะ หรือ หมูดำ เกิดที่เมืองคาโกชิมะนั้นเอง เราเลยพามาที่ร้านแรกที่นำคุโรบูตะมาทำอาหาร จนมีชื่อเสียงทั้งโลกต้องรู้จักคุโรบูตะ เนี่ยแหละ

ร้าน Ajimori คือร้านขายชาบูหมูดำ เวลาสั้งจะมาเป็นเซต เนื้อหมูเห็นลายไขมันชัดเจน

เวลาทานก็ใส่หมูดำลงไป เริ่มจากหมูชิ้นที่เหมือนดอกไม้ก่อน ใส่ลงหม้อไปเลย เนื้อหมูจะค่อยๆบานออกมา พอสุกก็รีบตักขึ้นมา ทานพร้อมกับไข่สด วิธีทานคล้ายสุกี้ยากิเลย เนื้อหมูดำแบบว่านุ่มมากๆ รสชาติเข้มข้น รสชาติของซุปชาบูก็เข้มข้นเหมือนกัน แบบอร่อยมากกก

เมื่อทานหมูชุดแรกเสร็จก็ใส่ผักลงตามไป

ค่อยๆลวกหมูทีละชิ้นๆ จุ่มไข่ ใส่ปาก อย่างฟินนน

ตบท้ายด้วยของหวาน อร่อย

Sunamushi Kaikan Saraku

เมื่อมาถึงคาโกชิมะแล้ว ต้องได้มาลองซาวน่าทรายร้อน แหล่งขึ้นชื่อ อยู่แถวเมือง Ibusuki ด้านล่างของเมือง Kagoshima

เวลาแช่คือเอาตัวไปอยู่ในหลุม แล้วจะมีป้าๆขุดทรายมาถมทั้งตัวเลยเหลือแต่หัว แล้วใต้พื้นดินเหมือนมีแหล่งน้ำพุร้อนอยู่ ทรายบริเวณนั้นเลยร้อน เหมือนอบซาวน่าเลย มีความเชื่อว่าช่วยรักษาอาการปวดเมื่อยต่างๆ เราทนได้แค่ 10 นาทีเท่านั้น ก็ขอขึ้นแล้ว ไม่ไหว เหงื่อแบบออกมาทั้งตัวมากกว่าที่คิด

เสร็จแล้วก็ไปล้างตัวแช่ออนเซน รู้สึกสบายตัวเหมือนกันแฮะ

Chiran Bukeyashiki

พื้นที่หมู่บ้านซามูไรในสมัยก่อน เป็นหมู่บ้านโบราณที่ยังคงไว้รูปแบบดั้งเดิมของพิ้นที่นี้ มีอยู่หลายสิบหลัง มีสวนแบบญี่ปุ่นที่แตกต่างกันไป เหมาะมาช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเห็นดอกไม้เต็มไปทั่วทุกสวน

บ้านทรงโบราณบางหลังสามารถเข้าไปชมได้ด้วย

บางหลังเป็นคาเฟ่เข้าไปดูได้

Takian

ร้านอาหารที่อยู่ในย่านนี้ พอเข้าไปบรรยากาศของร้านดีมากกกกก แบบตะลึงไม่คิดว่าร้านจะสวยขนาดนี้ บรรยากาศชวนนั่งรับบรรยากาศสบายๆไปเรื่อยๆ

ดูๆเข้ามาแล้วเป็นแบบนี้เลย ดีมาก

นั่งทานข้าวรอบที่ผิงไฟดีจริงๆ

แล้วอาหารก็มาเสิรฟแล้วเป็นอาหารท้องถิ่นที่นี้ มาซาซิมิไก่ ที่นี้ก็ดังเรื่องไก่

และคาคุนิ กระดูกหมูตุ๋น อร่อยมาก เนื้อหมูนี้เปื่อยเลย

เริ่มก็จิบเหล้าบ๊วยซักหน่อย

ข้าวคลุกสาเก อันนี้อาจทานยากหน่อย สำหรับคนไม่เคยดื่มเหล้า

มีลูกชิ้นปลาทอด

และตบท้ายด้วยโซบะร้อนๆ

ใกล้ๆมีพิพิธภัณฑ์ Zero Fighter คนไทยน่าจะรู้จักกัน เป็นฝูงบินที่ชื่อดังของญี่ปุ่น ที่ทำการคามิคาเซ่ พุ่งชนถล่มศัตรูในสมัยสงครามโลก วีรกรรมที่ดังที่สุดคือถล่มท่าเรือฮาร์เบิล เสียดายที่ข้างในถ่ายไม่ได้ มีเครื่องบิน Zero จริงๆด้วย และมีซากที่เก็บกู้ขึ้นมาได้อีก ชุดทหาร อุปกรณ์ ปืน ทุกอย่างล้วนเป็นของจริง

Shiroyama Park

จุดชมวิวภูเขา Sakurajima สัญลักษณ์ของจังหวัดคาโกชิมะ ที่เห็นได้สวยและชัดที่สุดแห่งหนึ่ง วันนี้โชคดีฟ้าใสมาก เห็นเขาชัดแจ๋ว สวยจริงๆ

Senganen Garden

เป็นสวนของตระกูล Shimazu เป็นตระกูลที่มั่งคั่งและแข็งแกร่งอย่างมากในสมัยเอโดะ สวนนี้ตั้งอยู่ติดกับอ่าวคาโกชิมะ มองหันออกเห็นภูเขาไฟซากุระจิม่าพอดี

ประตูทางเข้านี้ เป็นหนึ่งในฉากในละครทีวีเรื่องดังช่อง NHK เรื่อง Atsuhime เรื่องเกี่ยวกับเจ้าหญิง Atsu

บ้านเรือนบางหลังเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก

จากเรือนหลังหันหน้าออกไปทางสวนจะเห็นภูเขาไฟซากุจิม่า สวยมาก

ป็นศาลเจ้าแมวด้วย เพราะเจ้าเมืองที่นี้รักแมวมาก เวลาออกเรือก็พาแมวไปด้วย แต่เกิดเรือล่มทำให้แมวเสียชีวิตหมด เจ้าเมืองเลยสร้างศาลเจ้าเล็กๆแห่งนี้ขึ้นมา

ใครเป็นทาสแมวเห็นแล้วต้องหลงแน่ๆ เพราะเต็มประด้วยของที่ระลึกแมว เครื่องรางแมว แมวกวัก เต็มไปหมดเลย เราก็โดนไปหลายอย่างเลย ฮ่าๆ

Amu Plaza Kagoshima

สุดท้ายแล้วจบทริป ขับรถเที่ยวคิวชู ถ้าอยากช๊อปปิ้งให้มาที่นี้เลย Amu Plaza เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้จุดเด่นคือมีชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ ตั้งอยู่บนห้าง และแน่นอน ชมวิวภูเขาไฟซากุจิม่า ได้อย่างชัดเจน

จบแล้วกับทริป ขับรถเที่ยวคิวชู ตามรอยประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ที่เขตนี้มันยังมีที่น่าสนใจอีกมาก และสวยแบบตะลึงแน่ๆ แต่เรายังไปไม่ครบทุกที่ มีโอกาสต้องมาเยือนให้ได้

Facebook
Pinterest
Twitter
แอด อ้น

แอด อ้น

แอดอ้น แอดมินเพจ Go!Graph Japan เดินทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองมากกว่า 50 ครั้ง ไปเกือบทั่วประเทศญี่ปุ่นแล้ว งอกทริปไปญี่ปุ่นเก่ง สามารถให้คำตอบวิธีเที่ยวญี่ปุ่นได้หลายแบบ ความสามารถแลกเงินเยนเมื่อไร เงินเยนลดทันที