เที่ยว ฮาโกเน่ ด้วย Digital Hakone Freepass
Hakone ฮาโกเน่ เมืองออนเซ็นบนภูเขาในจังหวัด Kanagawa เป็นสถานที่ที่เป็นจุดมุ่งหมายในการเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นของใครหลายๆ คน ด้วยความที่เดินทางสะดวกจากโตเกียวเพียง ใช้เวลาเพียงประมาณ 80 นาทีด้วยรถไฟด่วน Romancecar ของบริษัทรถไฟ Odakyu อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ตลอดจนออนเซ็นที่มีมากมายหลายแห่ง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นครอบครัว วัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุ ก็สามารถเพลิดเพลินกับเสน่ห์ของ Hakone ได้เป็นอย่างดี
ที่ Hakone ไม่ได้เจาะจงว่าเที่ยวได้แค่ฤดูใดฤดูหนึ่ง แต่ยังสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงใบไม้เปลี่ยนสียิ่งเป็นช่วงที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งใหลมาเที่ยวที่ Hakone เป็นอย่างมาก จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีใน Hakone มีทั้งในสวน มิวเซียมหรือแม้กระทั่งชมจากกระเช้าลอยฟ้า
สถานที่ท่องเที่ยวของ Hakone ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมีอยู่หลายที่ด้วยกัน แต่เส้นทางที่จะมาแนะนำวันนี้เป็นเส้นทางเที่ยวง่ายๆ เก็บครบทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มิวเซียมและคาเฟ่ ใช้เวลา 1 วันเป็นเดย์ทริปจากโตเกียวได้ง่ายๆ โดยใช้ตั๋ว Digital Hakone Freepass ชนิด 2 วัน ซึ่งตั๋วนี้รวมค่าเดินทางรถไฟสาย Odakyu แบบไป-กลับ (ระหว่างเส้นทางสถานี Shinjuku – สถานี Odawara) และสามารถขึ้นยานพาหนะทั้ง 8 ชนิดใน Hakone ได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว คุ้มค่าและใช้งานง่ายมากๆ โดยซื้อตั๋วได้ในมือถือสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวผ่าน EMot Online Tickets (EMot) เว็บไซต์ขายตั๋วดิจิตอลของบริษัทรถไฟฟ้า Odakyu
Digital Hakone Freepass สามารถซื้อได้ใน EMot https://www.emot-tickets.jp ซื้อผ่านมือถือได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ไม่จำเป็นต้องเข้าคิวซื้อตั๋วหรือแลกตั๋วก่อนเดินทาง แถมยังสามารถโอนตั๋วให้เพื่อนก็ได้ และไม่ต้องกังวลว่าตั๋วจะหายเหมือนตั๋วกระดาษอีกด้วย
วิธีใช้งานก็ง่ายเพียงสแกน QR Code ที่เครื่องอ่านที่ทางเข้าสถานี หรือหากเป็นสถานที่ที่ไม่มีเครื่องอ่านก็โชว์หน้าจอให้นายสถานีดู แต่จะไม่สามารถโชว์หน้าจอแบบ Screenshot ได้ เพราะที่ตั๋วดิจิตอลจะมีอะนิเมชั่นรถไฟวิ่งอยู่
แผนที่เส้นทางที่ Digital Hakone Freepass ใช้ได้
ราคา Digital Hakone Freepass
ออกจากสถานี Shinjuku
2 days ผู้ใหญ่ 6,100 เยน เด็ก 1,100 เยน
3 days ผู้ใหญ่ 6,500 เยน เด็ก 1,350 เยน
ออกจากสถานี Odawara
2 days ผู้ใหญ่ 5,000 เยน เด็ก 1,000 เยน
3 days ผู้ใหญ่ 5,400 เยน เด็ก 1,250 เยน
- ถ้านั่ง Odakyu Romancecar จากสถานี Shinjuku – Hakone-Yumoto ต้องจ่ายเงินส่วนต่างเพิ่ม 1,150 เยน (สามารถจองและซื้อตั๋วผ่าน EMot ได้)
ครอบคลุมการเดินทางเกือบทั้งหมดของ ฮาโกเน่ ถึง 8 เส้นทาง ได้แก่ Hakone Tozan Train, Hakone Tozan Bus, KANKO SHISETSU-MEGURI Bus, Hakone Tozan Cable Car, Hakone Ropeway, Hakone Sightseeing Cruise, Odakyu Hakone Highway Bus, Tokai Bus
นอกจากนั้น ยังใช้เป็นส่วนลดราคาค่าเข้าหรือสิทธิพิเศษอื่นตามสถานที่ต่างๆ ของฮาโกเน่มากกว่า 70 แห่ง ดูได้ที่ https://www.hakonenavi.jp/international/en/discount_passes/free_pass2
รายละเอียดเกี่ยวกับตั๋วพาส: https://www.odakyu.jp/english/passes/hakone/
รายละเอียดเกี่ยวกับรถด่วน Romancecar: https://www.odakyu.jp/english/romancecar/
เราเริ่มออกเดินทางจากโตเกียวเริ่มต้นที่สถานี Shinjuku ด้วยรถไฟ Romancecar ไปลงสถานี Hakone-Yumoto
ตอนจะผ่านประตูตรวจตั๋วที่สถานีก็แค่เปิดหน้าจอ Digital Hakone Freepass จะมี QR ให้สแกนผ่านได้เลย สะดวก มาก (เวลาผ่านประตูตรวจตั๋วจะใช้แค่ตั๋ว Digital Hakone Freepass เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องโชว์หน้าตั๋วรถไฟด่วน Romancecar)
เครื่องแสกนตั๋วดิจิทัลจะอยู่ใกล้กับประตูตรวจตั๋วที่มีเจ้าหน้าที่รถไฟยืนอยู่ จุดสังเกตจะมีป้าย QR สีเหลือง
ลงสถานี Hakone-Yumoto จากนั้นนั่งรถบัสต่อไปเที่ยวที่ Hakone Venetian Glass Museum
ใช้ Digital Hakone Freepass ขึ้นรถบัสได้เช่นกัน
Hakone Venetian Glass Museum
เป็นมิวเซียมที่จัดแสดงศิลปะเครื่องแก้วเวนิสสมัยตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ถึง 19 ไปจนถึงศิลปะเครื่องแก้วสมัยใหม่ นอกจากเครื่องแก้วที่จัดแสดงในอาคารแล้ว ที่นี่ยังมีศิลปะกลางแจ้งในสวนอันสวยงาม “ทางเดินแห่งแสง” ทางเดินที่ทอดจากสวนไปยังอาคารที่ประดับประดาด้วยคริสตัลกว่า 160,000 เม็ด ซุ้มคริสตัลที่ระยิบระยับไปมาเมื่อกระทบกับแสงแดด นับว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ที่ควรค่าแก่การมาเยือน
เวลาทำการ 10:00 – 17:30
ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 1,800 เยน / มัธยมปลาย 1,300 เยน / ประถมและมัธยมต้น 600 เยน / ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป) 1,700 เยน
*แสดงตั๋ว Digital Hakone Freepass ได้รับส่วนลดค่าเข้า 100 เยน
เว็บไซต์ https://www.hakone-garasunomori.jp/en/
จากนั้นเราก็นั่งบัสจากหน้า Hakone Venetian Glass Museum ไปยังทุ่งหญ้าสีทอง Sengokuhara วิธีสังเกตรถบัสง่ายๆ คือต้องเป็นรถบัสสัญลักษณ์นกตาแดง จะเป็นรถบัสที่สามารถใช้ Digital Hakone Freepass
ทุ่งหญ้าซูซูกิที่ Sengokuhara
ทุ่งหญ้าซูซูกิสีทองที่ Sengokuhara เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของ Hakone ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการชม คือ ปลายเดือนกันยายนจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนทุ่งหญ้าจะเปลี่ยนเป็นสีทองทั่วทั้งบริเวณ
เวลาทำการ เปิด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้า ฟรี
เว็บไซต์ https://www.hakonenavi.jp/international/en/spot/184
นั่งบัสมาสองรอบแล้วต่อไปเราจะพาไปนั่งพาหนะอีกชนิดกันที่สถานี Togendai เป็นสถานีกระเช้าที่จะพาเราขึ้นไปยังหุบเขา Owakudani
Owakudani
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก นักท่องเที่ยวสามารถชมการปะทุของภูเขาไฟที่ยังปล่อยควันจากปล่องได้อย่างใกล้ชิด และอย่าพลาดที่จะกินเมนูพิเศษของที่นี่ “ไข่ดำ” ที่ขึ้นชื่อเรื่องการยืดอายุ ทานแค่ฟองเดียวก็จะช่วยยืดอายุได้ถึง 7 ปี
เวลาทำการ 9:00 – 16:00
สแกน QR ขึ้นกระเช้า Hakone Ropeway ได้เลย
เว็บไซต์ https://www.hakonenavi.jp/international/en/spot/99
cu―mo Hakone
ต่อไปเราก็นั่งกระเช้าลงมาที่สถานี Sounzan เพื่อมา cu―mo Hakone ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 2 ของสถานี Sounzan สถานีจุดเปลี่ยนจากกระเช้าลอยฟ้าเป็นเคเบิ้ลคาร์ ที่นี่มีจุดพักผ่อนทั้งคาเฟ่และออนเซ็นเท้าที่มีระเบียงหันหน้าออกไปชมวิว จึงสามารถเพลินเพลินกับวิวทิวทัศน์ภูเขาของเมือง Gora ของ Hakone ได้ ขณะแช่เท้าแนะนำให้ซื้อเครื่องดื่มสมู้ทตี้ที่มีสายไหมทรงก้อนเมฆจากคาเฟ่มาดื่มด้วย
เวลาทำการ 9:00 – 16:45
เว็บไซต์ https://www.hakoneropeway.co.jp/cu-mo-hakone/
COFFEE CAMP HAKONE
นั่งทั้งรถบัสและกระเช้าลอยฟ้าแล้ว ต่อไปเราจะนั่งเคเบิ้ลคาร์จากสถานี Sounzan ลงมายังสถานี Gora เพื่อไปยังคาเฟ่ที่มีชื่อว่า COFFEE CAMP HAKONE คาเฟ่ที่นำเอาอาคารสหกรณ์การเกษตรมาปรับปรุงเป็นคาเฟ่ในปี 2021 ที่นี่เปิดบริการตั้งแต่เช้า จะมาทานมื้อเช้าหรือมานั่งพักผ่อนชิมกาแฟก่อนออกเดินทางต่อก็ได้
เวลาทำการ 8:00 – 16:30 (Last order 16:00) หยุดทุกวันอังคาร
เว็บไซต์ https://coffeecamp-hakone.com/
จากสถานี Gora นั่งรถบัสต่อไปยังท่าเรือ Motohakone เพื่อขึ้นเรือโจรสลัดชมวิวทะเลสาบอาชิกับภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งแน่นอนว่านั่งเรือโจรสลัดก็สามารถใช้ Digital Hakone Freepass ได้ เป็นอันว่าจบทริปหนึ่งวันใน Hakone อย่างสมบูรณ์ เก็บครบทุกสถานที่ท่องเที่ยวหรือใครจะค้างคืนนอนเรียวกังแช่ออนเซ็นแล้วค่อยเดินทางกลับชินจูกุในวันรุ่งขึ้นก็ได้
Digital Hakone Freepass สามารถซื้อได้ใน EMot https://www.emot-tickets.jp ซื้อผ่านมือถือได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ไม่จำเป็นต้องเข้าคิวซื้อตั๋วหรือแลกตั๋วก่อนเดินทาง แถมยังสามารถโอนตั๋วให้เพื่อนก็ได้ และไม่ต้องกังวลว่าตั๋วจะหายเหมือนตั๋วกระดาษอีกด้วย
วิธีใช้งานก็ง่ายเพียงสแกน QR Code ที่เครื่องอ่านที่ทางเข้าสถานี หรือหากเป็นสถานที่ที่ไม่มีเครื่องอ่านก็โชว์หน้าจอให้นายสถานีดู แต่จะไม่สามารถโชว์หน้าจอแบบ Screenshot ได้ เพราะที่ตั๋วดิจิตอลจะมีอะนิเมชั่นรถไฟวิ่งอยู่
รวมคูปองส่วนลดในญี่ปุ่น Donki/ตึกม่วง Takeya/Klook / KKDay /ประกัน Sompo /รถเช่า /Bic Camera