Kumamoto แผนขับรถเที่ยวคุมาโมโตะ 3 วันไล่เก็บจุดยอดฮิต!

Kumamoto

Kumamoto แผนขับรถเที่ยวคุมาโมโตะ 3 วันไล่เก็บจุดยอดฮิต! ตั้งแต่เมือง Yamaka ที่เป็นเมืองเก่าการค้าสำคัญตั้งแต่สมัยเอโดะ แล้วไปแถวภูเขาไฟ Aso แหล่งเที่ยวธรรมชาติชื่อดัง แล้วกลับเข้ามาที่ตัวเมืองคุมาโมโตะ เที่ยวปราสาท และแน่นอนเราต้องแวะหาคุมะมง มาสคอตประจำเมือง มีชื่อเสียงระดับโลก!

เราเริ่มจากขับรถมาจากสนามบินฟุกุโอกะ ใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงเมือง Yamaka เป็นเมืองที่อยู่ตอนเหนือสุดของคุมาโมโตะ

Day1 Yamaka

เราขับรถมาจากสนามบินฟุกุโอกะ ใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงเมือง Yamaka เป็นเมืองที่อยู่ตอนเหนือสุดของคุมาโมโตะ ที่นี้เป็นเมืองการค้าเก่าแก่ดั้งเดิมอายุหลายร้อยปีตั้งแต่สมัยเอโดะ ขึ้นชื่อเรื่องการค้าขายข้าว เมืองนี้เลยมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนอกจากข้าวสาร อีกมากมาย เช่น สาเก มิโซะ เซมเบ้ คือผลิตภัณฑ์อะไรเกี่ยวกับข้าวจะมีขายที่เมืองนี้

ยามากะเป็นเมืองเก่าที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมและบรรยากาศในยุคก่อนไว้ได้เป็นอย่างดี ทำให้เหมาะสำหรับการเดินเล่นชมอาคารเก่าแก่และร้านค้าแบบดั้งเดิม และยังมีร้านค้า คาเฟ่ น่าเข้าด้วย


Yachiyoza

โรงละครยา Yachiyoza เป็น โรงละครคาบูกิแบบดั้งเดิม สร้างขึ้นในปี 1910 และยังคงรักษาสถาปัตยกรรมและกลิ่นอายของโรงละครในยุคเมจิ-ไทโชไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โรงละครแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่จัดการแสดงคาบูกิเท่านั้นในปี 1988 โรงละครยาจิโยซะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ด้วย

และยังคงมีการแสดงจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งต้องดูรอบในแต่ละวันดูรายละเอียดได้ทางนี้ https://yamaga.site/?page_id=1948

สำหรับการเข้าไปชมแค่ตัวโรงละครและพิพิธภัณฑ์ ค่าเข้าจะอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 730 เยน เด็ก 370 เยน ซึ่งราคานี้ใช้เข้า Yamaga Lantern Folk Art Museum ได้ด้วย

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/oUnp8Zp2bVEv91gE8?g_st=ic

ภายในโรงละคร ยังคงแบบดั้งเดิมไว้ อาจปรับที่นั่งให้เหมาะสมกับปัจจุบัน ตัวเวทียังไม่ธรรมดา มีลูกเล่นต่างๆ ซึ่งยังคงแบบดั้งเดิมไว้

จะเห็นป้ายโฆษณาของร้านต่างๆในสมัยก่อน

สามารถลงไปใต้เวทีได้ ลูกเล่นของเวทีสามารถหมุนได้ด้วยแรงคน


Yamaga Lantern Folk Art Museum

พิพิธภัณฑ์โคมไฟ ที่เมือง Yamaga จะมีชื่อเสียงใน งานหัตถกรรมโคมไฟกระดาษ (Yamaga Toro)โคมไฟกระดาษของเมืองยามากะเป็นงานฝีมือแบบดั้งเดิมที่ทำจากกระดาษวาชิทั้งหมดโดยไม่มีโครงไม้หรือโลหะ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์โคมไฟเพื่อชมผลงานที่ประณีตงดงาม

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/LuA7REtXqdJtETDG8

เมือง Yamaka จะมีเทศกาลชื่อดังคือเทศกาลโคมไฟยามากะ (Yamaga Toro Matsuri) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากการแสดง “ระบำโคมไฟพันคน” (Sennin Toro Odori) โดยผู้หญิงจะสวมชุดยูกาตะและร่ายรำพร้อมกับสวมโคมไฟกระดาษที่ทำจากกระดาษวาชิไว้บนศีรษะ งานจะจัดทุกวันที่ 15-16 ส.ค ของทุกปี เมืองนี้เป็นเมืองช่างฝีมือศิลปะจากกระดาษ มีงานศิลปะเกี่ยวกับกระดาษเยอะ โคมไฟก็ทำจากกระดาษไม่หนักหัวเลย

มีให้ลองวางบนหัวถ่ายรูปด้วย

เรามาทำ workshop ประดิษฐ์โคมไฟจากกระดาษได้ด้วย ยากกว่าที่คิดมาก งานฝีมือสุดๆ ค่าทำกิจกรรม 1,500 เยน


Kazamidori Diner

Kazamidori Diner ร้านอาหารแนวตะวันตกสไตล์ญี่ปุ่นในเมืองยามากะ เป็นร้านดังที่เมืองนี้ เมนูแนะนำคีอข้าวแกงกะหรี่ มาพร้อมไก่ทอด ไข่ออนเซน กินพร้อมกันเข้ากันมาก และยังเมนูต่างๆอีกมากมาย น่าอร่อยไปหมด ข้าวห่อไข่ก็น่ากิน

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/zr1L5XCnv1srG5c2A?g_st=ic



Sakura-yu

เมืองยามากะยังเป็นเมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียง มีบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่ง โดยเฉพาะ “ซากุระยุ” (Sakura-yu) ซึ่งเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะที่สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมในยุคเอโดะ ซึ่งหน้าตาอาจคุ้นเคยกับ Dogo Onsen ที่ Ehime

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/L9NcRTr393oggTMc6

Buzen Kaido

เมือง Yamaka เป็นเมืองการค้าโบราณ เป็นเมืองปลูกข้าวสำคัญของคุมาโมโตะ และส่งไปทั่วญี่ปุ่น ร้านย่านนี้เลยมีร้านเกี่ยวกับข้าวเยอะ สาเก มิโซะ และเซมเบ้ ในอดีตเส้นทางนี้เป็นทางหลวงที่เชื่อมต่อปราสาทคุมาโมโตะกับท่าเรือโคคุระ (เมืองคิตะคิวชูในปัจจุบัน) ทางตอนเหนือ เส้นทางนี้จึงมีความสำคัญในฐานะศูนย์กลางทางการค้าและวัฒนธรรมของเมืองยามากะ

ปัจจุบัน Buzen Kaido ยังคงรักษาสภาพบ้านเรือนเก่าแก่ในยุคเอโดะไว้ได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับการเดินเล่นชมอาคารเก่าแก่ ร้านค้าท้องถิ่น และสัมผัสบรรยากาศย้อนยุค นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น เวิร์คช็อปงานฝีมือดั้งเดิมอีกด้วย

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/jC3KLrAkprCBk8mo9

จะมีกิจกรรมพาเดินตามย่าน ตามร้านค้าต่างๆ ซึ่งส่วนมากก็จะเกี่ยวข้องกับข้าว นั้นเอง


Chiyonosono

เป็นโรงงานผลิตเหล้าสาเกเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1896 และมีประวัติศาสตร์ยาวนานในการผลิตสาเกคุณภาพเยี่ยม จุดเด่นของ Chiyonosono คือความมุ่งมั่นในการใช้ข้าวคุณภาพดีที่เป็นพันธุ์ดั้งเดิมตั้งแต่สมัยก่อนและสืบทอดเทคนิคการผลิตแบบดั้งเดิม ทำให้เป็นสาเกที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/iyNNanmF3RHC7ca87

Senbeikoubou

ร้านเซมเบ้เปิดมาอายุมากกว่า 40 ปี ร้าน Senbeikoubou เจ้าของน่ารักมาก สามารถชมกระบวนการผลิตเซมเบ้แบบดั้งเดิมและสามารถลองทำเซมเบ้ได้ด้วย เซมเบ้ที่นี่มีความพิเศษตรงที่ใช้ส่วนผสมท้องถิ่นและทำด้วยมือ ทำให้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มีเซมเบ้หลายรสชาติให้ได้ซื้อกลับไปด้วยนะ

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/R46iMvki94kf6vtP6

ลองทำเซมเบ้เอง

เจ้าของน่ารักมากๆ


Kikuchi Gorge

Kikuchi Gorge หุบเขากลางป่าของคุมาโมโตะ มีสายน้ำที่ใสสะอาดมาก ไหลมาจากเทือกเขา Aso จนได้ชื่อว่า 100 แหล่งน้ำดีที่สุดในญี่ปุ่น ยังไม่พอภายในหุบเขาจะมีน้ำตกสวย ได้รับคัดเลือกว่าน้ำตกสวย 1 ใน 100 ของญี่ปุ่น และยังเป็นแหล่งเดินอาบป่า บรรยากาศป่าดีมาก ขนาดฤดูร้อนยังรู้สึกเย็นมาก จนได้ชื่ออีกว่าแหล่งเดินอาบป่า 1 ใน 100 ของญี่ปุ่น

รวมของดีขนาดนี้บอกเลยว่าสวยมาก ชอบที่นี้มาก หุบเขาคิคุจิมีความสวยงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้มและแดงสดใส และในช่วงฤดูร้อนที่อากาศเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อนหรือฤดูอะจิไซก็มีให้ชมตลอดทาง

ค่าเข้า 300 เยน

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/aN47iCoBsKVD9Fmi6?g_st=ic


Daikanbo

Daikanbo จุดชมวิวดังของเส้นทาง Aso Panorama Line เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดบนขอบด้านนอกของแอ่งยุบตัวทางตอนเหนือของภูเขาไฟอะโสะ (Aso Caldera) สามารถชมวิวพาโนรามาได้แบบ 360 องศา เห็นทิวทัศน์ที่ราบอะโสะและยอดเขาอะโสะทั้งห้าที่เรียงตัวกันเป็นรูปร่างคล้ายพระพุทธรูปนอน

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว หากสภาพอากาศเหมาะสม จะสามารถมองเห็นปรากฏการณ์ “อุนไก” (Unkai) หรือทะเลหมอกที่ปกคลุมแอ่งยุบตัว ทำให้ยอดเขาดูเหมือนลอยอยู่เหนือเมฆ

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/jBoBdbkBMAcWodkA8

Nishiyunouraenchi Observatory

Nishiyunouraenchi Observatory อีกจุดชมวิวที่ต้องแวะตั้งอยู่บนเส้นทาง Aso Panorama Line ซึ่งเป็นถนนสำหรับชมทิวทัศน์ที่สวยงาม หรืออีกชื่อคือ Milky Road เพราะตลอดทางก็เป็นฟาร์มวัวแดง โดยอยู่คนละฝั่งกับจุดชมวิวยอดนิยมอย่าง Daikanbo สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของหุบเขาที่เขียวชอุ่ม สันเขาที่ทอดยาว และทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ของภูเขาไฟอะโสะ

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/xVrUysFHMCo8aUQA7

วันที่เราไปอากาศไม่ค่อยดีหมอกลงเยอะ ทำให้เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูป สามารถไปดูรีวิวที่เราเขียนในเส้นทางนี้แบบช่วงสวยๆ https://www.gographjapan.com/kumamoto-milk-road-aso/

Kamenoi Hotel Aso Park Resort

Kamenoi Hotel Aso Park Resort โรงแรมและรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในเมืองอะโสะ โดดเด่นด้วยทำเลที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟอะโสะ เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งสามารถมองเห็นวิวภูเขาอะโสะได้ และมีสระว่ายน้ำในร่มที่สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งปี

มีห้องอาหารบุฟเฟต์ที่ให้บริการอาหารหลากหลาย ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากคุมาโมโตะ บอกเลยอร่อยมาก!

และสำคัญ มีห้องพักคุมะมง น่ารักมาก ทั้งห้องตกแต่งด้วยคุมะมงทั้งห้อง! ใครชอบหมีคุมะมง ฟินมากแน่!! แต่ละจุด ของใช้ คุมะมง หมดเลยยย น่ารักมาก

คนชอบคุมะมง ฟิน

ชั้นนี้จะมีแต่ห้องคุมะมงเท่านั้น ก็จะมีคุมะมงเนี่ยตกแต่งทั่วทั้งชั้น

ร้านค้าของโรงแรมก็เต็มไปด้วยคุมะมง

มีห้องอาหารบุฟเฟต์ที่ให้บริการอาหารหลากหลาย ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากคุมาโมโตะ บอกเลยอร่อยมาก!

Day 2 Aso

วันนี้เราจะเดินทางเที่ยวแถวโซนภูเขาไฟอะโซะกัน

Aso Roadside Station

สถานีอะโซะ เป็นสถานีหลักของเมือง เป็นจุดขึ้นรถบัสเพื่อไปยังเมืองต่างๆ แล้วยังมี Michi no Eki Aso เป็นร้านขายสินค้าเกษตรสดใหม่ เช่น ผัก ผลไม้ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปและของที่ระลึกจากอะโสะ

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/nCzMvKkQam95p9tQ7

และจุดที่ต้องมาแวะถ่ายรูปเลย คือรูปปั้น Usopp หนึ่งในลูกเรือกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง มังงะชื่อดัง One Piece และยังมีรูปปั้นของลูกเรือคนอื่นอีก ตามจุดต่างๆ ทั่วจังหวัดคุมาโมโตะ

Mount Aso

เราเดินทางมา Mount Aso ภูเขาไฟอะโซะ คือภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นยังคงมีการประทุอยู่ เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อะโซะมีแอ่งยุบตัวขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต แอ่งนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวถึง 25 กิโลเมตร

ภายในแอ่งยุบตัวมีกลุ่มยอดเขา 5 ยอดที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม ได้แก่ ทาคาดาเกะ, เนโกดาเกะ, คิชิมะดาเกะ, เอบิโนะคิชิมะ และนาคาดาเกะ ซึ่งเราสามารถขึ้นไปชมภูเขาไฟอะโซะจนถึงปากปล่องเลย นั่งรถขึ้นไป หรือ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมปากปล่องเขาภูเขาไฟอะโซะก็ได้

โดยจะมาที่จุดขึ้นจะเปิด 10 โมง แต่แนะนำให้มาก่อนล่วงหน้า เพราะคิวค่อนข้างยาว

จะมี 2 คอร์ส ราคาต่อคน

  • 8,000 เยน 4 นาที ชมแต่ปากปล่อง
  • 12,000 เยน 7 นาที มีชมทุ่งหญ้า และวิวเขารอบๆเพิ่ม

รอบหนึ่งนั่งได้ 3 คน และ นน.รวมไม่เกิน 200 กก. ถ้า 3 คนรวมแล้ว นน. เกินจะโดนแบ่งไปอีกรอบนะ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมทาง https://jetheliservice.com/en

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/xmog38J8JokaMMc96

เรานั่งแบบรอบ 7 นาที ก็จะพาบินวนชมทุ่งหญ้าก่อน

เห็นปากปล่องแล้ว สวยมากกกกกก อยากให้เห็นกับตาตัวเองเลย มุมนี้ สวยจริงๆ


Nakadake

Nakadake เป็นปากปล่องภูเขาไฟ Aso ที่ยังคงคุกรุ่น สามารถมองเห็นควันและไอน้ำพุ่งออกมาได้เป็นประจำ สามารถขับรถขึ้นไปถึงปากปล่องได้เลย แต่มีบางช่วงเวลาที่อาจมีการประทุ ซึ่งทางการจะประกาศปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าใกล้เพื่อความปลอดภัย ซึ่งบอกระดับว่าให้อยู่ใกล้ได้ระดับไหน

สามารถดูระดับการเตือนภัยได้ทาง https://www.aso-volcano.jp/

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/RZyrjBcMwgNHM2Kz7

ที่หลบภับ ถ้าเกิดประทุกระทันหัน

ที่ปากปล่องนาคาดาเกะสามารถมองเห็นบ่อน้ำสีเขียวมรกตภายในปล่องได้ และสามารถเห็นไอน้ำหรือควันพวยพุ่งขึ้นจากปล่อง ซึ่งเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยว


Kusasenri

ทุ่งหญ้าคุซาเซนริ เป็นทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่เห็นไกลสุดลูกหูลูกตา มองแล้วเหมือนใกล้ แต่ความไกลเป็นกิโลเลยทีเดียว ช่วงฤดูร้อนก็จะเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวแบบนี้ แต่ถ้าช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะเป็นน้ำตาล ฤดูหนาวจะเป็นหิมะปกคลุมทั่วไปเลย สวยแตกต่างไปแต่ละฤดูกาล

ขี่ม้าเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวสามารถขี่ม้าชมทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าคุซาเซนริ

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/UkHNQjayeFGVobGg9

Aso Volcano Musuem

Aso Volcano Museum คือพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และธรรมชาติของภูเขาไฟอะโสะ ตั้งอยู่ใกล้กับทุ่งหญ้าคุสะเซนริ เป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟอะโสะ ตั้งแต่การก่อตัว, การปะทุในอดีต, ไปจนถึงระบบนิเวศในปัจจุบัน

ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 1,100 เยน เด็ก 550 เยน

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/Tb6nCavWryRWmq2JA


douce Nucca

มา Aso แล้วต้องได้กินเนื้อวัวแดง Aka Uchi ของขึ้นชื่อที่อะโซะ อยู่ตรงจุดแวะพักทุ่งหญ้าคุสะเซนริ มีร้าน douce Nucca มีเมนูข้าวหน้าวัวแดง และยังเมนูเนื้ออื่นๆ อีกด้วยนะ แล้วยังมีขนมหวานอีก แนะนำ มัทชะคุมะ สีเหมือนหญ้า แต่ทำจากมัทฉะนะ

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/okLjS3jJkRZvnRG68

ข้าวหน้าเนื้อวัวแดง อร่อย

มีขนมไทยากิหน้าคุมะมงด้วย น่ารัก

Kamishikimi Kumanoza Shrine

Kamishikimi Kumanoza Shrine ศาลเจ้าลึกลับในป่าสนด้านใต้ของเขาอะโซะ เมือง Takamori ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องบรรยากาศที่ลึกลับและน่าอัศจรรย์ เนื่องจากทางเดินไปยังศาลเจ้าหลักถูกปกคลุมด้วยมอส และมีตะเกียงหินเรียงรายตลอดแนวป่า ทำให้มีบรรยากาศที่คล้ายกับฉากในอนิเมะ ซึ่งมีอนิเมะเรื่อง “Hotarubi no Mori e” “สู่ป่าแห่งแสงหิ่งห้อย” ใช้ที่นี้เป็นฉากในเรื่องด้วย เลยทำให้มีคนมาศาลเจ้านี้มากขึ้น

ด้านบนสุดจะมีถ้ำอุเงโตะ-อิวะ (Ugato-iwa Cave) เป็นถ้ำหินขนาดใหญ่ที่มีรูทะลุผ่าน ถือเป็นจุดศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญอีกแห่งในบริเวณศาลเจ้า ว่ากันว่ารูนี้เกิดจากเทพเจ้าที่ต้องการเปิดประตูเพื่อไปยังอีกโลกหนึ่งาที่เป็นจุด Powerspot

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/BzPvQaSFgjQB9g1K6

Takamori Yusui Tunnel Park

Takamori Yusui Tunnel Park คืออุโมงค์รถไฟเก่าที่ยังสร้างไม่เสร็จและถูกดัดแปลงให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่น่าสนใจ เดิมทีอุโมงค์แห่งนี้ถูกขุดขึ้นเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟ แต่ในระหว่างการก่อสร้าง ได้ไปเจอชั้นหินที่อุดมไปด้วยน้ำบาดาล ทำให้น้ำปริมาณมหาศาลไหลทะลักเข้ามาจนไม่สามารถก่อสร้างต่อได้ โครงการจึงถูกยกเลิกไปในที่สุด หลังจากนั้น อุโมงค์ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นสวนสาธารณะให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมความมหัศจรรย์ของน้ำใต้ดินได้

เราสามารถเดินเข้าไปในอุโมงค์เรื่อยๆ ภายในอุโมงค์มีอุณหภูมิที่คงที่ตลอดทั้งปี ทำให้รู้สึกเย็นสบายในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว มีการจัดแสดงนิทรรศการและผลงานศิลปะแสงสีต่าง ๆ ภายในอุโมงค์ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล ทำให้บรรยากาศดูน่าค้นหามากขึ้น

เดินไปจนสุดท้ายก็จะเจอกับกำแพงน้ำที่มีน้ำแร่ธรรมชาติไหลออกมาไม่หยุด

googlemap : https://maps.app.goo.gl/Y13M7ucUnjGUcBiA9

Buzenya Honten

Buzenya Honten ร้านโชยุท้องถิ่นอายุ 150 ปี รวมโชยุ มิโซะ แบบต่างๆ คุณภาพดีของอะโซะ มีไอติมนมอะโซะราดโชยุกินพร้อมกับแป้งกรอบโมนากะ อร่อยมาก แนะนำเลย มีโชยุคอลแลปกับเทพเจ้าหมัดดาวเหนือด้วย ชอบมาก

https://maps.app.goo.gl/Kh8Q7e3dkPqgcXV7A?g_st=ic

OMO5 Kumamoto

OMO5 Kumamoto คือโรงแรมในเมืองของเครือ Hoshino Resorts อยู่ติดย่านถนนช้อปปิ้ง Shimotori จากระเบียง โรงแรมมองเห็นปราสาทคุมาโมโตะ สามารถนั่งชิลๆพร้อมเครื่องดื่มและขนมหวาน ด้วย ส่วนห้องพักมีหลาย Type มีห้องแบบครอบครัวพักได้ถึง 6 คน เป็นหนึ่งในโรงแรมทำเลดี และสวยมากในคุมาโมโตะเลย

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/jWHNHfp7f51poj1Z9

ตัวโรงแรมจะตั้งติดกับห้าง HAB@

บริเวณล๊อบบี้

มีกิจกรรมและบริการนำเที่ยวในท้องถิ่น (Go-KINJO) ที่จัดโดยพนักงานของโรงแรม เพื่อแนะนำสถานที่และร้านค้าลับ ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก

โซน OMO Cafe บริการอาหารและเครื่องดื่ม และอาหารเช้าก็จุดนี้เช่นกัน

โซนระเบียงสามารถมองเห็นวิวปราสาท Kumamoto ได้ ช่วงกลางคืนบรรยากาศดีมาก

ห้องพักมีให้เลือกหลาย Type มาก เราเอารูปแต่ละห้องต่างๆ มาให้ชมกัน การตกแต่งห้องจะมีกิมมิคต่างๆของคุมาโมโตะ

ห้องน้ำสีน่ารักมาก

ห้องแบบ 2 ชั้น

เมนูอาหารเช้าของโรมแรม จะเป็นขนมปังโทสไส้ต่างๆให้เลือก อร่อย

Salmon Chazuke

Croque-Monsieur

French Toast

American Breakfast

Sakuramachi

Sakuramachi คือศูนย์การค้าและสถานีขนส่งรถบัสหลักของเมืองคุมาโมโตะ เรียกว่าเป็นศูนย์กลางของเมืองเลยก็ว่าได้ เป็นคอมเพล็กซ์ที่ทันสมัย มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ทั้งแบรนด์แฟชั่น, ร้านขายของที่ระลึก, ซูเปอร์มาร์เก็ต และโรงภาพยนตร์ ความพิเศษของห้างนี้คือมี Kumamon Village เป็นร้านรวมสินค้าของคุมะมง และสามารถเจอคุมะมง เจ้าหมีดำมาสคอตของเมืองคุมาโมโต้ได้หลายจุด (จริงๆก็เจอทั้งเมืองคุมาโมโตะอยู่แล้ว ฮาๆ)

พิกัด : https://goo.gl/maps/KxXBr6eYfUv7ce4S6

Kumamon Village

อยู่ในห้าง Sakuramachi จะเป็นศูนย์รวมสินค้าของคุมะมง และยังมีกิจกรรมต่างๆ มีจุดถ่ายรูปด้วย

Kokutei Ramen

ราเมงสไตล์คุมะโมโตะ อยู่ชั้นใต้ดินของห้าง Sakuramachi ที่นี้เป็นศูนย์รวมร้านอาหารหลายๆร้าน อย่างร้านที่แนะนำคือ Kokutei เป็นร้านราเม็งดังของคุมาโมโตะ เปิดมานานแล้วกว่า 60 ปี ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ น้ำซุปกระดูกหมู (Tonkotsu) ที่เข้มข้นแต่ไม่หนักจนเกินไป และที่สำคัญคือการใช้น้ำมันกระเทียมดำไหม้ หรือ “มา-ยุ” (Ma-yu)

จุดเด่นเลย คือ มา-ยุ (Ma-yu) เป็นน้ำมันที่ทำจากกระเทียมที่ถูกทอดจนเกือบไหม้และนำมาปรุงรส ทำให้น้ำซุปมีกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ทางร้านมีเมนูพิเศษที่เสิร์ฟพร้อมไข่สด สองฟอง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากร้านอื่น เวลาทานกระจุ่มเส้นพร้อมไข่สด ทำให้รสชาติอร่อยมากขึ้น

Snoop

เป็นร้านราเมงอีกร้านที่แนะนำ จะเป็นราเมงสไตส์ใหม่ ที่ซุปเบสคือมะเขือเทศ มะเขือเทศก็เป็นของขึ้นชื่อของคุมาโมโตะ ราเมงมีหลายรส เราสั่งแบบตัวดัง คือโรยชีสด้านบนด้วย รสชาติกลมกล่อม มีความเหมือนกินพาสต้า แต่เป็นซุปมะเขือเทศแบบราเมง พอกินเส้นจนหมด เราสั่งข้าวเพิ่มเอาซุปที่เหลือมาใส่กลายเป็นรีซอตโต้ได้อีกด้วย

Day 3 Kumamoto City

วันนี้เราเดินทางเที่ยวภายในตัวเมืองคุมาโมโตะกัน

Luffy Statue

รูปปั้นของลูฟี่ ตัวเอกจากมังงะชื่อดังเรื่อง One Piece ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า ที่ทำการจังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto Prefectural Office)

รูปปั้นนี้ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวคุมาโมโตะในปี 2016 เท่านั้น แต่ยังเป็นการยกย่องผลงานอันยิ่งใหญ่ของ อาจารย์โอดะ เออิจิโร ผู้เขียนการ์ตูน ONE PIECE ซึ่งเป็นชาวคุมาโมโตะ รวมถึงเป็นการแสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนอันล้ำค่าของเขาต่อการฟื้นฟูพื้นที่อีกด้วย

นอกจากลูฟี่แล้ว ยังมีรูปปั้นตัวละครอื่น ๆ ในกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางตั้งกระจายอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วทั้งจังหวัดคุมาโมโตะ เช่น ซันจิ, โซโล, นามิ, และช็อปเปอร์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ออกเดินทางตามรอยตัวละครที่ชื่นชอบ

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/HnSCn47Teembwxw58

©Eiichiro Oda/SHUEISHA

Suizenji Jojuen

หน้าสวน Suizenji จะมีร้าน 和Collection美都 สามารถแต่งชุดยูกาตะ สามารถเช่าได้ทั้งวัน 4,980 เยน แล้วจะไปปราสาทต่อ มาคืนได้ตอนเย็น ซึ่งร้านมีสาขาตรงปราสาทด้วย เราไปคืนชุดที่นั้นได้เลย

สวน Suizenji ถือว่าเป็นสวนที่ติดอันดับสวยที่สุดในญี่ปุ่น สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยตระกูลโฮโซคาวะ (Hosokawa) ซึ่งเป็นผู้ปกครองเมืองในยุคนั้น โดยจำลองทิวทัศน์อันงดงามของเส้นทางโทไคโด (Tokaido) ซึ่งเป็นเส้นทางจากกรุงโตเกียวไปยังเกียวโตในสมัยเอโดะ เราจะเนินเขาเล็กๆที่เหมือนวิวเขาฟูจิ บ่อน้ำข้างหน้าเหมือนกันทะเลที่ชิสุโอกะ สวยมากๆ ซึ่งบ่อน้ำในสวนได้รับน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่ใสสะอาดจากภูเขาไฟอะโสะ ทำให้มีน้ำที่ไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา

googlemap : https://maps.app.goo.gl/bhZjUqMfyNQV84VV6

ภายในบริเวณสวนมีศาลเจ้าอิซูมิ ซึ่งเป็นที่สถิตของดวงวิญญาณบรรพบุรุษของตระกูลโฮโซคาวะ

ที่ร้านมีบริการถ่ายรูปด้วยนะ แต่เอาวิกมาใส่ให้ทำไม ฮา

Kamamoto Castle

ปราสาทคุมาโมโตะ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1607 โดย คาโต้ คิโยมาสะ (Kato Kiyomasa) ผู้ปกครองแคว้นในยุคนั้น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างปราสาท โดยปราสาทคุมาโมโตะมีขนาดใหญ่และมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง ถือเป็นหนึ่งใน 3 สุดยอดปราสาทของญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุดในญี่ปุ่น

ปราสาทได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 2016 แต่ตอนนี้ได้บูรณะไปหลายส่วนมากจนสามารถเยี่ยมชมได้แล้ว และยังคงมีการบูรณะซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง

https://goo.gl/maps/BDFqTGMs3bMcnQNf7

กำแพงหินที่โค้งมนและสูงชันอันเป็นเอกลักษณ์ เรียกว่า “มุฉะ-กาเอชิ” (Musha-gaeshi) ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้ปีนขึ้นมาได้

ปัจจุบันได้ทำทางเดินล้อมปราสาทเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินได้สะดวก และสามารถชมปราสาทได้รอบด้าน

ตัวปราสาทหลัก (tenshukaku) เป็นโครงสร้างที่สร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1960 แต่ก็ยังคงมีความสวยงามและจัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของปราสาท สามารถขึ้นไปด้านบนชมวิวเมืองคุมาโมโตะได้


Sakura no Baba Josaien

ถูกสร้างขึ้นเพื่อจำลองบรรยากาศของเมืองรอบปราสาทในยุคเอโดะ เป็นจุดรวมของร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/ZaRxfVEi5N82UZfU8

Ginnan

ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ Sakura no Baba Josaien มีอาหารหลากหลายให้เลือกเหมาะสำหรับกลุ่มทัวร์

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/2KUaB9LwKZj4fgk18

Kumamon Square

สำนักงานอย่างเป็นทางการของมาสคอตหมีชื่อดัง คุมะมง ซึ่งเป็นมาสคอตประจำคุมาโมโตะ ในแต่ละวัน คุมะมงจะมีรอบการปรากฏตัวเพื่อแสดงโชว์และทักทายกับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งแต่ละวันจะมีรอบไม่เหมือนกัน แนะนำว่าเช็ครอบก่อนมาทางนี้ https://kumamon-land.jp/squares/

ภายในมีร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับคุมะมงโดยเฉพาะ ซึ่งมีของที่ระลึกหลากหลายประเภท ทั้งของเล่น เครื่องเขียน เสื้อผ้า และขนม

มีการจัดแสดงรูปภาพและเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับคุมะมง

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/rUtRCVWfJ7RMwUrg8

ถึงรอบแสดงของคุมะมงแล้ว โชว์ได้น่ารัก น่ายิกมาก ซึ่งแต่ละเดือนก็โชว์ไม่เหมือนกันนะ

คุมะมงเคยมาไทยด้วย จริงๆก็มาทุกปี ฮา

©2010 kumamoto pref.kumamon

Kumamoto Hotel Castle

โรงแรมวิวปราสาทคุมาโมโตะ เป็นหนึ่งในโรงแรมวิวสวยสุดๆในเมืองคุมาโมโตะ เคยรับรององค์จักรพรรดิญี่ปุ่นมาหลายรัชสมัย ตั้งแต่สมัยโชวะ เป็นโรงแรมที่แนะนำเลยถ้าใครต้องการห้องใหญ่ๆ วิวปราสาทสวย ซึ่งสวยงามเป็นพิเศษในช่วงกลางคืนเมื่อปราสาทเปิดไฟ

ใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหาร และสามารถเดินไปยังปราสาทคุมาโมโตะได้ในเวลาไม่กี่นาที

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/zV8giVoCPWxfQAQC8


Shimotori – Kamitori

Shimotori – Kamitori เป็นย่านช้อปปิ้งและร้านอาหารของเมืองคุมาโมโตะ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่ร้านเสื้อผ้า, ร้านขายของที่ระลึก, ร้านเกม, ไปจนถึงร้านอาหารและบาร์มากมาย ชิโมโทริเป็นย่านที่คึกคักอย่างยิ่งในช่วงกลางคืน เนื่องจากมีร้านอาหาร ร้านกินดื่มมากมาย

Houraku Manjuu ร้านมันจูชื่อดังประจำเมืองคุมาโมโตะ ร้านจะทำสดใหม่และร้อน ๆ มีไส้ถั่วแบบต่างๆ ไส้ถั่วแดง Azuki เป็นไส้ดั้งเดิมและได้รับความนิยมที่สุด ทำจากถั่วแดงบดที่ให้รสหวานนุ่มนวล แล้วก็มีน้ำแข็งไสขายด้วย คนท้องถิ่นนิยมร้านนี้มากๆ

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/1jp3crnASpNQKyaR8

Swiss อีกร้านขนมเค้กท้องถิ่นของคุมาโมโตะ จะมีสาขาอยู่ตามที่ต่างๆในเมือง เค้กอร่อยมาก

เป็นย่านที่คึกคักอย่างยิ่งในช่วงกลางคืน เนื่องจากมีร้านอาหาร ร้านกินดื่มมากมาย

จบแล้วกับทริปเที่ยวคุมาโมโตะ 3 วัน ซึ่งจริงๆ คุมาโมโตะยังมีที่เที่ยวอีกมากมายให้ไปอีกนะ!

Facebook
Pinterest
Twitter
แอด อ้น

แอด อ้น

แอดอ้น แอดมินเพจ Go!Graph Japan เดินทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองมากกว่า 50 ครั้ง ไปเกือบทั่วประเทศญี่ปุ่นแล้ว งอกทริปไปญี่ปุ่นเก่ง สามารถให้คำตอบวิธีเที่ยวญี่ปุ่นได้หลายแบบ ความสามารถแลกเงินเยนเมื่อไร เงินเยนลดทันที