Koromogawa

Koromogawa อยู่ในเมือง Oshu ที่อยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดอิวาเตะ ในภูมิภาคโทโฮคุ พื้นที่ส่วนมากของเมืองนี้จะเป็นไร่ฟาร์มการเกษตร อยู่ติดกับเมือง Ichinoseki และ Hiraizumi ที่เป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งประวัติศาสตร์สำคัญของญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ซึ่งทริปนี้เรามาเมืองนี้เพื่อมาเที่ยวฟาร์มสเตย์ ขี่ม้า พายเรือ ท่ามกลางธรรมชาติของเมือง

สำหรับการเดินทางไป Koromogawa สามารถนั่งรถไฟชิงคันเซ็นจากโตเกียวโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง หรือจากเซนไดประมาณครึ่งชั่วโมง ลงที่สถานีรถไฟอิชิโนะเซคิ (Ichinoseki Station) แล้วเราได้นัดกับคุณลุงเจ้าของฟาร์มสเตย์มารับเราที่สถานีไปที่บ้านคุณลุงกัน

Umakoro

ฟาร์มสเตย์แห่งนี้ชื่อ Umakoro เป็นของคุณลุง บ้านใหญ่มากอยู่ท่ามกลางทุ่งนา และมีคอกม้าในบ้านเลย คุณลุงใจดีสุดๆ ขับรถมารับเราถึงบ้าน ซึ่งคุณลุงสามารถรับแขกได้ถึง 6 คน แต่ถ้ามากกว่านั้นก็ลองสอบถามลุงก่อนนะ

สนใจกิจกรรมฟาร์มสเตย์ ขี่ม้า จองได้ที่ http://umacoro.com/activity/

เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นหลังใหญ่ซึ่งเราสามารถนอนพักได้ที่บ้านเลย หรือจะเลือกไปพักโรงแรม หรือเรียวกัง ในเมืองก็ได้

บ้านน่ารักมากๆ

เก้าอี้นวด และมิฟฟี่ยักษ์

เป็นบ้านญี่ปุ่น มีห้องญี่ปุ่นให้แขกแบ่งนอน 2 ห้อง ชุดยูกาตะให้สวม

ติดกับบ้านมีส่วนที่เป็นคอกม้าด้วย

เราลงไปทำกิจกรรม ตั้งแคมป์ขี่ม้ากันที่ฟาร์ม ก็คืออยู่ใกล้กับบ้าน เดินไปได้เลย บรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ

มีเต้นท์กลาง 2 ตัว

แล้วมาแล้วน้องดอฟฟี่เป็น ม้าแคระโพนี่ ไม่ได้ขี่น้องนะ 55 น่ารักมากกก เหมือนหมาตัวใหญ่ๆมากกว่า

น้องขี้เล่น เดินตามคนนั้น คนนี่ที

ส่วนของอาหารก็เป็นข้าวกล่องเบนโตะ จากร้านอาหารในเมือง อร่อยมาก หรือจะให้เชฟมาทำอาหารให้ที่แคมป์ก็ได้

แซลม่อนอบ ย่างบนเตาใหม่ๆ

หรือใครจะซื้อวัตถุดิบอะไรมาเองก็ได้ มาย่างที่แคมป์ ข้าวโพดนี่เราเอามาเอง

ทานอาหาร เล่นกับม้าไป

อันนี้ม้าที่เราจะขี่กัน ลุงมาปล่อยให้มาผ่อนคลาย กินหญ้าซักพัก

อีกกิจกรรมก็คือพายแคนู จะพายตรงลำธารที่แคมป์ มีชูชีพให้ พายไม่ยาก มือใหม่ก็พายได้แหละ แต่อย่าไปไกลเกินมีน้ำตกฝายเล็กๆ ข้างหน้า

ถึงเวลาขี่ม้าแล้ววว คุณลุงเตรียมพร้อมให้เรา

ก็จะขี่วนรอบๆฟาร์ม สนุกดี ขี่ครั้งแรกก็ได้เลย ม้าเชื่องมาก แบบคุ้มมากปกติขี่ม้าที่อื่นไม่ได้แบบนี้เลย

ขี่ม้าเสร็จก็มาพัก กินกาแฟ ปิ้งมาสเมโลวกัน

ตกเย็นกลับไปที่บ้านคุณลุง

น้องม้าทุกตัวเข้าคอก กินอาหาร

เราเอาแอปเปิ้ลให้หน่อยๆกินได้

ลากันคืนนี้กับน้องๆม้าทั้งหลาย น่ารัก

ซึ่งอาหารเย็นเราสามารถเลือกได้หมดทั้งไปกินที่ร้านอาหารในเมือง หรือจะซื้อของกินมาทำกินกันเองที่บ้านก็ได้ อาหารเช้าเราก็ทานกันที่บ้าน ช่วยกันทำอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นง่ายๆกัน

Ogata

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าเนื้อวัวของญี่ปุ่นหรือที่เรียกติดปากกันว่าเนื้อวากิว (Wagyu) นั้นเป็นเนื้อที่มีคุณภาพระดับพรีเมียมและมีชื่อเสียงระดับสากล และในครั้งนี้เราจะมาแนะนำเนื้อวัวมาเอะซาวะ (Maesawa Gyu) ที่เพาะเลี้ยงและผลิตเมือง Oshu โซน Maesawa ซึ่งร้านที่แนะนำเลยคือ Ogata ร้านมีฟาร์มเป็นของตัวเอง

เนื้อจัดเต็มมาก ครั้งนี้เป็นเนื้อ Maesawa ทั้งหมด อร่อยมากกก แต่ละชิ้นคือนิ่มมาก รสสัมผัสเนื้อดี และเครื่องในคุณภาพดีมาก อร่อยอยากให้ลองกินกัน

ตัวเลือกที่พักอื่นๆ

สำหรับใครที่ต้องการตัวเลือกที่พักแบบอื่นๆในเมืองก็มีให้เลือกหลายที่เลย

Minpaku Hiraizumi

ที่พักแนวโฮมสเตย์ที่ดูแลด้วยคุณพ่อคุณแม่สองคน อยู่ในเมือง Hiraizumi น่ารักมากๆ บ้านบรรยากาศดี และอยู่ใกล้ที่เที่ยวในเมือง HIraizumi สามารถเดินไปกันได้เลย

Hiraizumi Hot Spring Ryokan Soba’an Shizukatei

เป็นเรียงกังในป่า อยู่นอกตัวเมืองไปนิดหนึ่ง แต่ออนเซนคุณภาพดีมาก มีบริการที่ดีเยี่ยม และจุดแนะนำเลยคือมีแปลงผักอยู่ด้านหน้าโรงแรม และเตาพิซซ่า ที่ให้เราสามารถเก็บผักจากแปลงแล้วมาใส่ในหน้าพิซซ่าได้เลย อร่อย

ที่เที่ยวต่างๆ

นอกจากไปฟาร์มสเตย์ ขี่ม้าแล้ว เรายังสามารถไปเที่ยวที่ต่างๆ เมืองใกล้เคียงได้ ที่เมือง Ichinoseki และ Hiraizumi

เริ่มต้นเรามาเริ่มที่สถานี Ichinoseki หลังจากลาจากคุณลุงแล้ว เราจะเดินทางด้วยรถบัส จะเชื่อมต่อไปยังที่เที่ยวต่างๆได้ทั้งหมด

Genbikei Gorge

ร่องผาเกนบิเค (Genbikei Gorge) เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่อยากแนะนำให้นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสได้มาเยือนจังหวัด Iwate  เดินชมทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางริมแม่น้ำร่องผา Genbikei ไม่ว่าจะมองไปทางไหนจะเจอแต่ใบไม้สีส้ม แต่ช่วงที่เราไปใบไม้เปลี่ยนสีล่าช้ากว่าปกติ ก็เลยยังไม่เปลี่ยนสีส้มแดงเท่าไรนัก

นอกจากการชมใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ที่นี่ยังมีไฮไลท์แสนน่ารักที่เราอยากจะแนะนำให้คุณได้สัมผัส นั่นก็คือ คักโคดังโงะ (Kakko Dango) หรือชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า Flying Dango ก็คือการสั่งดังโงะแบบชักรอกส่งจากอีกฟาก เพียงแค่คุณวางเงินลงไปในตะกร้าที่ตั้งไว้ตามราคาแล้วใช้ค้อนเคาะที่ป้ายไม้ให้ดังประมาณ 2-3 ครั้ง ทางร้านจะชักรอกรับเงินและส่งขนมดังโงะพร้อมชาร้อน ๆ กลับมา

เราสามารถเดินมาอีกฝั่งมาที่ร้านดังโงะลอยฟ้า มาซื้อที่ร้านได้เลยโดยไม่ต้องต่อคิวยาวๆ และมีจุดนั่งชมวิวทานดังโงะไปด้วยได้

เราขึ้นไปเจอคุณลุง และดูวิธีส่งดังโงะลอยฟ้า และได้ลองลากด้วย บอกเลยว่าคุณลุงแข็งแรงมากๆ ชัดรอกรอบหนึ่งใช้แรงพอสมควรเลย และวันหนึ่งเป็นร้อยรอบ

ที่ร้านจะมีที่นั่งชมวิว นั่งทานดังโงะลอยฟ้า ดังโงะมีถึง 3 รสชาติด้วยกันได้แก่ รสงาดำ รสโชยุ และรสถั่วแดง อร่อยมากๆ

Chusonji

วัด Chusonji คือศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายเทนไดในภูมิภาคโทโฮคุที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก มีจุดเด่นคือได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) วัดแห่งนี้สร้างขึ้นบนเนินเขาที่มีชื่อว่าคันซัง (Mt.Kansan) ในปี ค.ศ. 850 ก่อตั้งโดยท่านเอนนิน เจ้าอาวาสคนที่ 3 ของนิกายเทนได

ต่อมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 11 ท่านฟูจิวาระ โนะ คิโยฮิระ (Fujiwara no Kiyohira) ผู้ก่อตั้งตระกูลโอชูฟุจิวาระ (Oshufujiwara) และยังเป็นผู้ปกครองดินแดนในเขตโทโฮคุ ได้เริ่มสร้างกลุ่มวัดขนาดใหญ่อันประกอบด้วยอาคาร วิหารทอง และเจดีย์ขึ้นมาที่นี่ ท่านคิโยฮิระมีจุดประสงค์คือสร้างวัดชูชอนจิให้เป็นดินแดนแห่งสันติภาพไม่มีสงครามตามหลักพุทธศาสนานิกายเทนได โดยให้ที่นี่เป็นที่สิงสถิตของวิญญาณผู้ตาย ทั้งของมิตรสหายและศัตรูในสมัยที่มีความขัดแย้งอย่างมากในเขตโทโฮคุ

อ่านข้อมูลวัดชูชอนจิเพิ่มเติมได้ที่ https://www.gographjapan.com/chusonji/

เดินออกจากวัดชูชอนจิ เพื่อไปวัดโมซือจิระหว่างทางก็มีต้องแป๊ะก๊วยสีเหลืองสวยตลอดทาง ตรงถนนเส้นนี้ช่วงฤดูซากุระก็สวยมากเช่นกันมีหลายต้นทั้งถนน

Motsuji Temple

วัดโมซือจิ (Motsuji Temple) นั้นเป็นสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานพิเศษระดับชาติและยังเป็นมรดกโลก จึงได้ชื่อว่าเป็นจุดที่ขาดไม่ได้สำหรับการท่องเที่ยวในภูมิภาคโทโฮคุ ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 850 กล่าวกันว่าในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดนั้นเคยเป็นวัดขนาดใหญ่ที่มีสิ่งปลูกสร้างและอารามต่าง ๆ กว่า 40 แห่งและมีพระสงฆ์นับ 500 รูป แต่ทว่าหลังจากเกิดภัยพิบัติหลายครั้ง ทำให้อาคารทุกหลังก็ถูกไฟไหม้จนหมด

สวนโจวโด (Jodo) ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับเดินเล่นหรือชมใบไม้เปลี่ยนสี บริเวณสวนที่ด้านหน้าของอุโบสถทอง มีการสร้างสระโออิซุมิกะอิเคะ (Oizumigaike) เป็นจุดศูนย์กลาง ที่นี่นับเป็นสวนสำคัญที่ว่ากันว่า มีการออกแบบและใช้เทคนิคในการจัดสวนที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น

กลับมาที่สถานี Ichinoseki ก่อนกลับก็มีร้านขายของที่ระลึก ของกิน

ตรงสถานี Ichinoseki ก็เหมาะสำหรับพักเช่นกัน ค่อนข้างสะดวกเช่น Hotel Matsunoka ก็อยู่ติดสถานีเลยสะดวกมาก

ก็จบแล้วกับรีวิว เป็นเมืองสงบๆ ท่ามกลางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ใครสนใจอยากทำกินกิจกรรมขี่ม้า พายเรือ ตั้งแคมป์ก็มันกันนะที่เมือง Koromogawa จังหวัด Iwate

สนใจกิจกรรมฟาร์มสเตย์ ขี่ม้า จองได้ที่ http://umacoro.com/activity/