Chusonji Iwate เที่ยววัด วิหารทองคำ มรดกโลก ชมไลท์อัพใบไม้เปลี่ยนสี

Chusonji

Chusonji คือศูนย์กลางของพุทธศาสนาวัดนิกายเทนไดในภูมิภาคโทโฮคุที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก มีจุดเด่นคือได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) วัดแห่งนี้สร้างขึ้นบนเนินเขาที่มีชื่อว่าคันซัง (Mt.Kansan) ในปี ค.ศ. 850 ก่อตั้งโดยท่านเอนนิน เจ้าอาวาสคนที่ 3 ของนิกายเทนได

อิวาเตะ (Iwate) นั้นเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่รองลงมาจากเกาะฮอกไกโดตั้งอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ซึ่งเป็นภูมิภาคได้ชื่อว่าเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม มีอารยธรรม อาหารท้องถิ่นและวัฒธรรมอีกมากมายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

เดิมทีจังหวัด Iwate ค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยกันอยู่แล้ว และสำหรับใครที่ยังไม่รู้จักแต่อยากรู้ว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจ เราขอให้ติดตามบทความนี้จนจบ เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง Hiraizumi จังหวัด Iwate ที่ไม่ควรพลาด 

ก่อนอื่นเราขอเริ่มพูดถึงการเดินทางไปจังหวัด Iwate ก่อน โดยวิธีเดินทางจากโตเกียวนั้นไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ เพียงแค่นั่งรถไฟชิงคันเซ็นจากสถานี Tokyo ตรงไปยังสถานี Ichinoseki ได้เลย (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง) หรือใครที่อยู่ในเมือง Sendai ก็สามารถนั่งชิงคันเซ็นไปได้ง่ายๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไม่ว่าจะเดินทางจากไหนก็สามารถเลือกแพลนเที่ยวแบบ 1-Day Trip กันได้

Googlemap : https://maps.app.goo.gl/Q8WRE2A4esgMgorT6

เมืองฮิราอิซุมิ (Hiraizumi) คืออะไร

Hiraizumi เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อยู่ติดกับเมือง Ichinoseki ซึ่งเป็นจุดที่เราลงรถไฟ เมืองนี้เป็นที่รู้จักจากสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ หนึ่งในสถานที่ที่สำคัญที่สุดในเมือง Hiraizumi คือวัด Chusonji ซึ่งเป็นวัดพุทธที่มีชื่อเสียงที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไป

นอกจากนี้เมือง Hiraizumi ยังมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น รวมถึงวัฒนธรรมและศิลปะในยุคโบราณอีกด้วย

วัดจูซนจิ (Chusonji Temple) มรดกโลกที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม

วัด Chusonji คือศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายเทนไดในภูมิภาคโทโฮคุที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก มีจุดเด่นคือได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) วัดแห่งนี้สร้างขึ้นบนเนินเขาที่มีชื่อว่าคันซัง (Mt.Kansan) ในปี ค.ศ. 850 ก่อตั้งโดยท่านเอนนิน เจ้าอาวาสคนที่ 3 ของนิกายเทนได

ต่อมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 11 ท่านฟูจิวาระ โนะ คิโยฮิระ (Fujiwara no Kiyohira) ผู้ก่อตั้งตระกูลโอชูฟุจิวาระ (Oshufujiwara) และยังเป็นผู้ปกครองดินแดนในเขตโทโฮคุ ได้เริ่มสร้างกลุ่มวัดขนาดใหญ่อันประกอบด้วยอาคาร วิหารทอง และเจดีย์ขึ้นมาที่นี่ ท่านคิโยฮิระมีจุดประสงค์คือสร้างวัดชูชอนจิให้เป็นดินแดนแห่งสันติภาพไม่มีสงครามตามหลักพุทธศาสนานิกายเทนได โดยให้ที่นี่เป็นที่สิงสถิตของวิญญาณผู้ตาย ทั้งของมิตรสหายและศัตรูในสมัยที่มีความขัดแย้งอย่างมากในเขตโทโฮคุ

หลังจากตระกูลโอชูฟุจิวาระล่มสลายจากสงคราม ชะตาของวัดชูชอนจิก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จนถึงในปี ค.ศ.1337 ตรงกับสมัยคามาคุระ (Kamakura) เกิดไฟไหม้ทั้งอาคารของวัด เจดีย์และสมบัติล้ำค่าต่างๆ เสียหาย อย่างไรก็ตามสมบัติล้ำค่าของชาติและมรดกทางวัฒนธรรมกว่า 3,000 ชิ้นยังคงหลงเหลืออยู่

นอกจากนี้ วัดชูชอนจิยังมีสวนและบรรยากาศโดยรอบที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ เหมาะแก่การเดินเที่ยวชม จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะและธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความสงบและประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งของญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริง

การเดินทางจากสถานี Ichinoseki ไปยังวัดชูชอนจินั้นสามารถเดินทางได้ง่ายๆ ด้วยการนั่งรถบัสที่อยู่บริเวณทางออกฝั่ง West Exit โดยจะต้องขึ้นป้ายหมายเลข 10 ที่อยู่เยื้องกับ Tourist Information Center รถบัสจากสถานีดังกล่าวใช้เวลาตรงไปยังป้ายชูชอนจิใช้เวลาประมาณ 25-30 นาทีเท่านั้น

นอกจากนี้ สำหรับใครที่เดินทางจากสถานี Hiraizumi สามารถใช้บริการรถบัส LOOP-LINE BUS Runrun จะให้บริการเฉพาะในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ยกเว้นในช่วงฤดูหนาว โดยขึ้น-ลงที่ป้ายหมายเลข 5 หน้าวัดได้เลย

จุดที่น่าสนใจในวัด Chusonji

เนินสึคิมิซากะ (Tsukimisaka)

เมื่อเราเดินทางมาถึงทางเข้าวัดเราจะพบกับเนิน Tsukimisaka หรือภาษาไทยเรียกเนินชมจันทร์ซึ่งเป็นทางเดินหลักเข้าสู่ด้านในก่อน บรรยากาศโดยรอบของเนินดังกล่าวนั้นล้อมรอบไปด้วยต้นสนซีดาร์ที่มีอายุหลายร้อยปีขนาบสองข้างทางให้ความรู้สึกราวกับว่ากำลังจะหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว

การเดินเข้าไปยังโซนวิหารด้านในวัดจำเป็นจะต้องเดินผ่านเนินนี้ขึ้นไปบนเขา Kansan ก่อน เราขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวฟิตร่างกายหรือกำลังขาเตรียมไว้สักหน่อยนะคะ เนื่องจากระยะทางที่เนิน Tsukimisaka ค่อนข้างใช้เวลาอยู่ไม่น้อย แต่เส้นทางไม่ได้ชันมากจนเกินไป ระหว่างทางมีร้านค้าหรือเก้าอี้ให้สามารถนั่งพักได้ เพราะฉะนั้นผู้สูงอายุหรือเด็กก็สามารถมาได้แบบไม่ต้องกังวลเลย

อาคารวิหารหลักฮงโด (Hondo Main Hall)

หลังจากที่เราผ่านเนินดังกล่าวมาแล้ว เราจะพบกับจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาสักการะนั่นก็คืออาคารวิหารหลัก Hondo ซึ่งเป็นจุดที่ทางวัดใช้ประกอบพิธีกรรมอยู่ตลอดเวลา อาคารแห่งนี้ได้มีการปรับปรุงใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ.1909 และยังคงความงดงามมาจนถึงปัจจุบัน

เมื่อเข้าไปด้านในของอาคารจะพบกับพระพุทธรูปองค์หลักชาคะ เนียวไร (Shaka Nyorai) ที่พระหัตถ์ทั้งสองข้างอยู่ในอิริยาบทแตกต่างจากพระพุทธรูปอื่นในวัดทั่วไป และได้รับชื่อว่าเป็น “พระพุทธเจ้าแห่งประวัติศาสตร์”

หลังจากที่เราสักการะกันเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมแวะไปซื้อเครื่องรางเสริมดวงกันด้วยนะคะ ได้ยินมาว่าเครื่องรางที่นี่โด่งดังในเรื่องของสุขภาพและการเรียนเป็นอย่างมากเลย

คาเฟ่คันซังเท (Kanzantei)

คาดว่าหลายๆ คนที่เดินทางมาหลังจากแวะไปไหว้พระน่าจะเริ่มรู้สึกหิวกันบ้างแล้ว อันดับต่อไปเราจะขอแนะนำร้านคาเฟ่ภายในวัดที่มีชื่อว่า Kanzantei ซึ่งเป็นคาเฟ่กึ่งร้านอาหารที่สามารถชมทัศนียภาพอันตระการตาของเมือง Hiraizumi จากเนินสูงผ่านกระจกบานใหญ่พร้อมกับอิ่มอร่อยไปกับอาหารท้องถิ่นเพื่อสุขภาพรสชาติเยี่ยมได้

จุดสังเกตทางเดินไปคาเฟ่เราจะผ่านเสาโทริอิสีแดงก่อนค่ะ เมื่อเดินผ่านเข้าไประหว่างทางเราจะได้พบกับเวทีโรงละครโนห์ซึ่งเป็นการแสดงพื้นบ้านญี่ปุ่นดั้งเดิม มีต้นกำเนิดมาจากการเพลงสวดและการร่ายรำบูชาเทพเจ้าที่ผสมผสานเรื่องราวและดนตรีอันเป็นศิลปะที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อีกด้วย

จุดเด่นของคาเฟ่ Kanzantei คือเราสามารถลิ้มลองอาหารที่ทางพระของวัด Chusonji ฉันภัตตาหารกันจริงๆ เมนูทุกชนิดแม้จะไม่ใช้เนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบแต่ก็ปรุงรสออกมาได้ถูกปากนักท่องเที่ยวทำให้คาเฟ่แห่งนี้มักเป็นที่นิยมอยู่เสมอ นอกจากเมนูสไตล์ญี่ปุ่นอย่างอุด้ง โซบะแล้วก็ที่นี่ก็ยังมีเมนูสไตล์ตะวันตกที่เราอยากแนะนำเป็นพิเศษก็คือพิซซ่าที่อร่อยมากๆ จนแทบอยากจะสั่งเบิ้ลอีกสักจาน นอกจากนี้ของหวานเองก็อร่อยไม่แพ้กัน

วิหารสีทองคงจิคิโด (Konjikido Golden Hall)

ไฮไลท์ของวัด Chusonji ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยกับวิหารสีทอง Konjikido ที่สร้างขึ้นโดย ฟูจิวาระ โนะ คิโยฮิระผู้นำคนแรกของตระกูลฟูจิวาระที่ปกครองพื้นที่บริเวณนี้ในสมัยก่อนตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น เพื่อตั้งเป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญบุญและสักการะพระพุทธศาสนา จุดเด่นคือเป็นอาคารแห่งเดียวที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 และยังคงสภาพสมบูรณ์ได้แม้จะโดนเผาเนื่องจากสถานการณ์การสู้รบและขัดแย้งกันในอดีต

วิหารนี้ได้รับเลือกให้เป็นเป็นมรดกแห่งชาติแห่งแรกของญี่ปุ่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1993 มีชื่อเสียงจากการใช้ทองคำเปลวในการตกแต่ง (ยกเว้นบริเวณหลังคา) ทำให้มีความงดงามโดดเด่น นอกจากนี้ยังมีการประดับด้วยภาพจิตรกรรมที่สวยงามและรูปปั้นต่างๆ รวมไปถึงเปลือกหอยและงาช้างบริเวณเสา

สำหรับใครที่มาเยือนวัดชูชอนจิแล้วจุดนี้เป็นจุดที่ไม่ควรพลาดเลยนะคะ ใครที่สนใจชมวิหารสีทอง Konjikido จะต้องซื้อตั๋วเพิ่มเติมก่อนเข้าไปด้านในอาคารค่ะ (ค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 1,000 เยน ราคาเด็กแตกต่างกันตามแต่ละช่วงระดับชั้นเรียน) ตั๋วหนึ่งใบสามารถใช้เข้าชมวิหารสีทอง Konjikido และพิพิธภัณฑ์ Sankozo ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมมรดกของประเทศและสมบัติทางวัฒนธรรมของวัดที่อยู่บริเวณด้านข้างได้ (โดยปกติแล้วข้างในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพและวิดีโอ แต่ครั้งนี้เราได้รับการอนุญาตถ่ายทำเป็นพิเศษ)

และใครที่อยากศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์เกี่ยวกับวิหารสีทอง Konjikido เพิ่มเติมก็สามารถแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่วัดที่อยู่โซนจำหน่ายเครื่องรางในอาคารได้ว่าเป็นคนไทย ทางเจ้าหน้าที่จะเปิดคำบรรยายเสียงเป็นภาษาไทยให้ด้วยนะคะ พิเศษสุดๆ ไปเลย

งานเทศกาลไลท์อัพกับใบไม้เปลี่ยนสีโคโยกิงกะ (Light Up Koyo Ginga)

หากใครได้มาเยือนวัดชูชอนจิช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เราขอแนะนำให้อยู่จนถึงช่วงเย็นเลยนะคะ เพราะที่วัดจะมีงานไลท์อัพที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ความงดงามของแสงสียามค่ำคืนที่ตัดกับใบไม้สีแดงเหลืองให้ความรู้สึกราวกับภาพวาดที่แตกต่างจากช่วงเวลากลางวันเลย

นอกจากนี้ สภาพอากาศในช่วงกลางคืนที่วัดค่อนข้างหนาวเนื่องจากอุณภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว อย่าลืมพกผ้าพันคอหรืออุปกรณ์ป้องกันความหนาวกันให้ดีด้วยนะคะ

บทส่งท้าย

เป็นอย่างไรบ้างคะกับเรื่องราวของวัดชูชอนจิและจังหวัด Iwate ที่เราได้นำเสนอไปในครั้งนี้ หวังว่าข้อมูลในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนมากยิ่งขึ้น จังหวัด Iwate ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจอีกมากมายที่รอให้คุณได้ค้นหา ไม่ว่าจะเดินทางไปฤดูกาลไหนๆ ก็ให้ความประทับใจที่ไม่ซ้ำเดิม รับรองว่าทุกการเดินทางของคุณจะต้องประทับใจอย่างแน่นอนค่ะ

รวมคูปองส่วนลดในญี่ปุ่น Donki/ตึกม่วง Takeya/ประกัน Sompo  >>> www.gographjapan.com/category/คูปองส่วนลดญี่ปุ่น/

Facebook
Pinterest
Twitter
LOOKGADE

LOOKGADE

ᴛʜᴀɪ-ᴄʜɪɴᴇsᴇ ʙᴀsᴇᴅ ɪɴ тᴏᴋчᴏ l ᴡᴇʙ ᴄᴏɴᴛᴇɴᴛ ᴇᴅɪᴛᴏʀ & sᴏᴄɪᴀʟ ᴍᴇᴅɪᴀ ᴅɪʀᴇᴄᴛᴏʀ l ғʀᴇᴇʟᴀɴᴄᴇ ᴡʀɪᴛᴇʀ & ᴍᴏᴅᴇʟ l ɪɴsᴛᴀɢʀᴀᴍ : www.instagram.com/katerumrsn/