Nagoya & Mie
Nagoya & Mie เที่ยวนาโกย่า และมิเอะ สองจังหวัดติดกันที่อยู่ตอนกลางของญี่ปุ่นเดินทางได้ง่ายจากสนามบิน Chubu Centair เที่ยวง่ายๆ 5 วัน 4 คืน
นาโกย่า (Nagoya) เป็นเมืองที่อยู่ตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น แต่อยากบอกทุกคนว่า นาโกย่า คือเมืองหลักที่อยู่ในจังหวัด ไอจิ (Aichi) บางคนอาจไม่รู้จักไอจิด้วยซ้ำ เป็นเมืองที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของญี่ปุ่นหลายๆด้านเลย บริษัทใหญ่ๆ ก็มีหลายบริษัทเกิดที่นาโกย่า ซึ่งที่รู้จักกันดีก็คือ โตโยต้า นั้นเอง เมืองนี้เลยมีแหล่งกิน แหล่งช้อปที่เยอะไม่ได้ต่างจากเมืองใหญ่อื่นๆเลย
ส่วนมิเอะ (Mie) เมืองนี้คนไทยอาจไม่รู้จักกันมาก แต่เป็นจังหวัดที่เราเชียร์อยากให้ไปเพราะเต็มไปด้วยของดี โดนเฉพาะอาหาร เป็นแหล่งอาหารคุณภาพสูงดีๆมาก และมีศาลเจ้าอิเซะ ที่ถือว่าเป็นศาลเจ้าอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นมาที่นี้นับล้านคนต่อปี
เราเดินทางด้วย สายการบินไทย เปิดเที่ยวบินตรงสู่นาโกย่า 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตอนนี้มีไฟล์ทดึกจากนาโกย่าแล้วนะ ไม่ต้องรีบไปสนามบิน มีเวลาเที่ยวเพิ่มอีกวัน
เที่ยวบินขาออก (จ, พ, พฤ, ส)
- TG644 ออกเดินทาง BKK เวลา 00.05 น. NGO ถึงเวลา 07.30 น.
- TG646 ออกเดินทาง BKK เวลา 11.30 น. NGO ถึงเวลา 18:55 น.
เที่ยวบินขาเข้า (อ. พฤ, ศ, อา)
- TG645 ออกเดินทาง NGO เวลา 11.00 น. BKK ถึงเวลา 15.40 น.
- TG647 ออกเดินทาง NGO เวลา 00.30 น. BKK ถึงเวลา 05:10 น.
Day 1 Nagoya Chubu Centair – Mie
เราเดินทางมาถึงสนามบิน Nagoya Chubu Centair ด้วยสายการบินในช่วงเช้า และจะเดินทางไปจ.มิเอะ ก่อนเลย โดยปกติการเดินทางมักจากไปด้วยรถไฟกัน เข้าเมืองนาโกย่าก่อน แล้วต่อด้วยรถไฟสาย Kintetsu ไปมิเอะ แต่ครั้งนี้เราจะเดินทางด้วยเรือข้ามไปจ.มิเอะ เลย ท่าเรือจะติดกับสนามบิน มีทางเชื่อมสามารถเดินไปได้เลยประมาณ 10 นาทีก็ถึง
Ninja Highspeed Boat
เรือด่วนข้ามไปเมือง Tsu, Mie 45 นาทีเท่านั้นถึงแล้ว ค่าโดยสาร 2,980 เยน เป็นวิธีไปมิเอะที่สะดวกมากเลย ท่าเรือติดสนามบินเลย เดินนิดเดียว
รอบเรือมีทั้งวันทุกชั่วโมง
ถึงฝั่งท่าเรือเมือง Tsu จะมีรถบัส หรือแท็กซี่เพื่อไปต่อสถานีรถไฟ TSU
Ise Grand Shrine
จากท่าเรือ เรานั่งรถมาประมาณ 45 นาที
ศาลเจ้าอิเสะ ศาลเจ้าอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ศาลเจ้าของศาสนามชินโตที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น สร้างมาแล้วถึง 2,000 ปี ทำให้คนญี่ปุ่นต้องมาสังการะ ขอพร ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ให้ได้ ว่ากันว่าคนญี่ปุ่นมาถึง 8 ล้านคนต่อปีเลย
ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนคริสตกาลหรือตรงกับ พ.ศ. 539 เพื่อถวายความศรัทธาแด่เทพีอามาเตราซุหรือเทพีแห่งพระอาทิตย์ โดยตั้งแต่ยุคอาซูกะทางราชสำนักจะส่งเจ้าหญิงหรือเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงที่ยังไม่ผ่านการเสกสมรสมาเป็นหัวหน้านักบวชหญิงหรือไซโอประจำศาลเจ้าอิเซะ กระทั่งถึงยุคราชสำนักเหนือ-ใต้ระบบไซโอจึงสิ้นสุดลง แต่ปัจจุบันทางราชสำนักก็ยังคงส่งเจ้าหญิงหรือเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงมาเป็นหัวหน้านักบวชหญิงโดยหัวหน้านักบวชหญิงคนปัจจุบันคือ ซายาโกะ คูโรดะ หรืออดีตเจ้าหญิงซายาโกะพระราชธิดาพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ซึ่งขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้านักบวชหญิงสูงสุดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560
ศาลเจ้าอิเสะ จะแบ่งหลักๆ คือส่วนใน และส่วนนอก ศาลเจ้าตั้งอยู่ในป่าที่ขนาดใหญ่มาก ใหญ่ๆพอกับเมืองหลวงแห่งหนึ่งเลย ภายในมีศาลเจ้าทั้งหมด 125 หลัง ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถชมได้แค่ถึงส่วนในด้านหน้าเท่านั้น หรือประมาณแค่ 10% ของทั้งหมด ภายในถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีไว้สำหรับราชวงศ์ในการเข้ามาทำพิธีนั้นเอง
ศาลเจ้าอิเซะยังเป็นที่เก็บรักษากระจกศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในสามสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับองค์จักรพรรดิญี่ปุ่นที่ใช้ในพระราชพิธีราชาภิเษก ด้วยซึ่งนำมาใช้ในงานล่าสุดนั้นเอง
ความพิเศษของโทริอิของศาลเจ้าอิเสะ คือไม่มีป้ายชื่อ เพราะถ้าพูดถึงศาลเจ้า จะหมายถึงที่อิเสะแห่งแรกเลย ตลอดทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่โต เป็นป่าเลยก็ว่าได้
จุดสุดท้ายที่คนทั่วไปเข้าถึงได้
Okage-Machi Yokocho
Oharai-Machi สวรรค์ถนนสายของกินแห่งศาลเจ้าอิเสะ จังหวัดมิเอะ! หนึ่งในถนนสายของกินดีที่สุดในญี่ปุ่น!!
ถ้าบอกที่ไหนเป็นสุดยอดถนนแห่งของกิน เราอยากบอกเลยว่าถนน Oharai-Machi คือสุดยอดที่สุดแห่งหนึ่งเลย เชื่อไหมว่าแอดอยู่ที่นี้เกือบ 4 ชั่วโมง กับถนนที่ยาวประมาณกิโลกว่าเท่านั้น เพราะแวะกินทุกร้าน! ของกินเยอะมากตลอดทาง และไม่ซ้ำกันเลย
ที่ของกินเยอะเพราะถนนแห่งนี้ตั้งมาหลายร้อยปีแล้วเพราะอยู่หน้าศาลเจ้าอิเสะ ศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเลยมาเยอะมาก ที่ไหนมีคน ย่อมมีของกินเยอะ
ไม่ว่าขนมโมจิถั่วแดงนุ่มหนึบ ข้าวปั่นหน้ามัตซึซากะแบบละลาย อุด้งอิเสะเส้นนุ่มกับซอสสูตรพิเศษ ข้าวหน้าทูน่าอิเสะที่บอกว่าห้ามพลาด หอยนางรมอิเสะที่เป็น 1 ในแหล่งดีสุดของญี่ปุ่น ขนม คาเฟ่ เยอะ บอกเลยว่าเยอะมาก
ตลอดถนนมีร้านค้าเยอะแยะ มีร้านเชนดังๆแต่จะตกแต่งร้านให้เข้ากับบรรยากาศ
เดินมาฝั่งริมแม่น้ำ ก็จะมีคาเฟ่วิวแม่น้ำ หรือมานั่งชิลๆก็ได้
ไปด้านในของตรอก ก็มีร้านอีกเยอะ ของกินเยอะมากๆ เรียกว่าอยู่ทั้งวันก็กินไม่หมดแน่ๆ
Ebiya Daishokudo
มื้อกลางวันกินเมนูท้องถิ่นของมิเอะ Tekone sushi เป็นข้าวหน้าปลามากุโร่หมักโชยุกันมิริน อีกเมนูที่แนะนำถ้ามาอิเสะ กินที่ร้าน Ebiya ร้านนี้ยังมีหลายเมนูท้องถิ่นให้เลือกนะ
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/WX6w6EAxJSZT1BL19?g_st=ic
Hinjitsukan
Hinjitsukan (賓日館) เป็นอดีตเรียวกังที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1887 โดยใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกที่มาเยือนศาลเจ้าอิเสะ ตัวอาคารมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยยังรักษาสถาปัตยกรรมและศิลปะในยุคนั้นไว้ ปัจจุบัน Hinjitsukan เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/DJsB4pSUcAbU2bKw9?g_st=ic
Meoto Iwa Futami Okitama Shrine
Meoto Iwa, Mie หินแต่งงาน เป็นหินสองก้อนที่ตั้งอยู่คู่กันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรักและการแต่งงาน หินทั้งสองเชื่อมต่อกันด้วยเชือกเส้นใหญ่ที่เรียกว่า “ชิเมนาวะ” ซึ่งเป็นเชือกศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาชินโตน้ำหนักกว่า 1 ตัน จะมีการเปลี่ยนใหม่ทุกปี
แล้วถ้ามาศาลเจ้าแห่งนี้จะเห็นกบเต็มไปหมดเพราะกบภาษาญี่ปุ่น Kaeru พ้องเสียงกับคำว่า Kaeru ที่แปลว่ากลับบ้านนั้นเอง อวยพรให้กลับบ้านปลอดภัย
Google Map : https://maps.app.goo.gl/Rbu2yKERis3bM8zt6?g_st=ic
Hachiman Kamado
Ama Hut “Hachiman Kamado” ทานอาหารทะเลสดๆ ที่จับโดย อามะจัง หญิงสาวแห่งท้องทะเล ที่เมือง Tobaจังหวัด Mie
Amachan คือใคร? คืออาชีพประมงแบบโบราณของญี่ปุ่นมีมาแล้วเป็นพันปี โดยจะเป็นผู้หญิงกันที่จะดำน้ำลงไปงมของทะเลขึ้นมา อามะจัง คำนี้ตรงๆเลย อะ แปลว่า ทะเล มะ แปลว่าผู้หญิง ก็เลยเป็น Amachan หญิงสาวแห่งท้องทะเลนั้นเอง
Ama Hut “Hachiman Kamado” คือร้านอาหารที่เอากระท่อมเวลาอามะจังงมของทะเลเสร็จแล้วขึ้นมาพักผ่อนผิงไฟ ทานอาหารให้ร่างกายอบอุ่น นั้นเอง ที่นี้เลยใช้วัฒนธรรมของอามะจังมารับรองนักท่องเที่ยวกัน อาหารสดมาก!! อามะจังจะนำอาหารทะเลที่งมมากย่างให้เราทานกันในกระท่อม กุ้งมังกรสดๆ เป็นๆ หอยเชลล์ตัวใหญ่ หวานหอยซาซาเอะ หมึกหวานกรอบ และข้าวอบสาหร่าย อร่อยมาก
จะมาต้องจองก่อน มีรถรับส่งจากสถานี Toba
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/XEUgjXro55CPmrM8A?g_st=ic
Shima Kanko Hotel
Shima Kanko Hotel เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งของอ่าว Ago ในจังหวัด Mie โรงแรมนี้เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการบริการที่เป็นเลิศ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความหรูหราและความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เคยเป็นที่จัดงาน G7 ในปี 2017
จะแบ่งเป็นสองโรงแรม
Shima Kanko Hotel The Classic: โรงแรมหลักที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1951 โรงแรมนี้ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามและสะท้อนถึงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมด้วยการใช้ไม้และกระดาษญี่ปุ่นเป็นวัสดุหลัก
Shima Kanko Hotel The Bay Suites: โรงแรมใหม่ที่เปิดให้บริการในปี 2014 โรงแรมนี้ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัยและหรูหราด้วยการใช้กระจกและเหล็กเป็นวัสดุหลัก โรงแรมมีห้องพักที่กว้างขวางและหรูหราพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย
Day 2 Mie
Yokoyama Observatory Deck
จุดชมวิวที่อยู่บนเกาะ Kashikojima ในเมือง Ise เป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของอ่าว Ago และเกาะต่างๆ ที่ล้อมรอบได้อย่างพาโนรามา
จุดชมวิวนี้ตั้งอยู่บนยอดเขา Yokoyama ซึ่งมีความสูงประมาณ 203 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้ไกลถึง 360 องศา นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่สามารถเดินไปยังจุดชมวิวอื่นๆ บนเกาะได้อีกด้วย
มี Yokoyama Tenkū Café Terrace เป็นร้านกาแฟที่อยู่บนชั้นดาดฟ้าของจุดชมวิว
Mikimoto Pearl Island
Mikimoto Pearl Island เป็นเกาะเล็กๆ ที่เมือง Toba, Mie เป็นที่ตั้งของบริษัท Mikimoto เป็นแหล่งกำเนิดการเพราะพันธุ์หอยมุกในญี่ปุ่น จนโด่งดังไปทั่ว มีพิพิธภัณฑ์การทำหอยมุก และแสดงการดำน้ำของอามะจัง และร้านหอยมุก
ที่นี้ใกล้กับ Toba Aquarium แนะนำให้มาเลย
Google Map : https://maps.app.goo.gl/yNMZvTTii9oMaiWM8?g_st=ic
Nouniyell
Nouniyell เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่ตั้งอยู่ใน VISON ซึ่งเป็นโครงการคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ตลาด พิพิธภัณฑ์ Nouniyell ร้านบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง โดยรอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับมื้ออาหารท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เมนูอาหารของร้านเน้นใช้วัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์มน์ ทำให้ได้รสชาติที่อร่อยและมีคุณค่าทางอาหาร
Vison
VISON เป็นโครงการคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ตลาด พิพิธภัณฑ์ เป็นที่ๆน่ามาเที่ยวมากในมิเอะ
โรงแรม VISON มีห้องพัก 155 ห้อง และวิลล่า 6 หลัง โรงแรมมีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง บ่อออนเซ็น
โซนร้านค้าของ VISON ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของเฉพาะทางจากผู้ผลิตท้องถิ่น เช่นร้านสาหร่าย ร้านมิโซะ ร้านปลาแห้ง และอีกหลากหลายที่น่าสนใจ
น่าเข้าไปเดินทุกร้านมาก
Sarutahiko Coffer คาเฟ่ดังจากโตเกียว
Hinotani Onsen Misugi Resort
Hinotani Onsen Misugi Resort, Tsu, Mie โรงแรมที่ได้ออนเซนไพรเวทอันดับ 3 ของญี่ปุ่น!! ออนเซนไพรเวททำดีมาก ห้องใหญ่ มีถึง 5 ห้อง และทีเด็ดเลย มีห้องที่มีแท็บคราฟเบียร์ในห้อง! เพราะเจ้าของเป็นนักผลิตคราฟเบียร์มีโรงเบียร์ของตัวเอง ไลน์บุฟเฟ่ต์ดีมาก อยากเชียร์ให้มาใบไม้เปลี่ยนสีแถวนี้เลยอยู่กลางเขาสวยงาม
Google Map : https://maps.app.goo.gl/bDVXA9KCmZ7bwUjV7?g_st=ic
ออนเซนแบบส่วนตัวที่ห้องใหญ่มาก มีหลายห้อง
อาหารเย็นและเช้า คุณภาพดีมาก
Day 3 Mie – Nagoya
Baumkuchen Workshop Misugi Resort Hotel
เวิร์คช้อปทำเค้กขอนไม้ Baumkuchen ที่โรงแรม Hinotani Onsen Misugi Resort ราดแป้งบนแท่งเหล็กแล้วหมุนไปเรื่อง แล้วก็ทำทีละชั้นไปเรื่อยๆ เสร็จเค้กก็จะวนๆ เหมือนวนปีขอนไม้นั้นเอง
Sekijuku
Sekijuku เมืองด่านเก่าแก่ในยุคเอโดะที่ยังคงหลงเหลือเสน่ห์ระหว่างเส้นทางทางเกียวโต ไป เอโดะ อาคารบ้านเรือนได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองเก่าแก่ในสมัยเอโดะอย่างแท้จริง
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/UMkUyLhEWCrBN4wq7
มีร้านเช่ากิโมโน สำหรับใส่ถ่ายรูปกับบรรยากาศหมู่บ้าน
มีมุมถ่ายรูปในบรรยากาศเก่า คาเฟ่อยู่ตามบ้านต่างๆ จะเป็นเยอะในช่วง เสาร์ อาทิตย์
บริเวณลานจอดรถมีออนเซนเท้าด้วย
Meihan Seki Drive-in
จุดแวะพักรถที่มีของฝากของมิเอะ และร้านอาหารต่างๆให้เลือกหลายร้าน
เรากินที่ร้าน Sekihonjin เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นมีหลากหลายเมนู แต่เด่นๆในเมนูเนื้อ มีให้เลือกเป็นเซตต่างๆ เช่นสกี้ยากิเนื้อ แต่มีปลา หมู ให้เลือกด้วย
Googkemap : https://maps.app.goo.gl/ChYk69JwBeVt9Af36
Mitsui Outlet Park Jazz Dream Nagashima
เอ้าเลทที่อยู่ออกนอกเมืองนาโกย่าไปครึ่ง ชม. มีร้านค้ากว่า 300 ร้านที่ขายสินค้าแบรนด์ดังทั้งในและต่างประเทศ เดินช้อปได้ครึ่งวันสบายๆ เป็นเอ้าเลทที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนาโกย่า
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/Rfvq1tzH9XH3dS936
Gomitori
Gomitori ร้านอิซากายะอาหารท้องถิ่นนาโกย่า!!! มีโปร 1000 เยน ให้จับปีกไก่ ได้กี่ชิ้นได้เท่านั้นเลย เมนูเทบาซากิ เมนูปีกไก่ประจำนาโกย่า จริงๆ สามารถหาได้หลายร้านในนาโกย่า Gomitori ก็แนะนำเลย แล้วยังมีเมนูท้องถิ่นนาโกย่าอื่นๆให้ลองด้วย
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/Bh6JU3PvxMXUDUSU6?g_st=ic
Chubu Electric Power Mirai Tower
Chubu Electric Power MIRAI TOWER หรือในชื่อเดิม Nagoya Tower อยู่กลางย่าน Sakae ศูนย์กลางช้อปปิ้งหลักของนาโกย่า ตอนนี้ได้มีการรีโนเวท มีร้านค้าและร้านอาหารให้เดินเยอะขึ้นมาก มีคาเฟ่ดีๆ ให้มานั่งรับบรรยากาศชิลๆ
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/vp3XBApJoxRv7zBY6
Oasis 21
อยู่ข้างๆ Chubu Electric Power MIRAI TOWER เรียกว่าที่นี้ก็เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของนาโกย่าเลยก็ว่าได้ มักเป็นที่จัดงานอิเวนท์ต่างๆ และยังมีร้านค้าเยอะด้วย
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/UeJLKPZNWeP8aNDH6
Nikko Style Nagoya
โรงแรมไลฟ์สไตล์ในเครือของ Okura Nikko Hotels ได้รับเลือกเป็น Best Hotel ของ Tripadvisor 2 ปีติดกัน แนวคิดของโรมแรมเป็นไลฟ์สไตล์แบบใหม่ที่ทำให้ผู้พักรู้สึกได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างจากโรงแรมอื่น และให้ความสำคัญกับกาแฟและดนตรี เช่นช่วงดึกโซนล๊อบบี้และคาเฟ่จะเปลี่ยนเป็นบาร์และมีดีเจมาเล่น เช้าก็เปลี่ยนไลน์บุฟเฟ่ต์ที่ใช้วัตถุท้องถิ่นคุณภาพดีทำให้ใหม่ๆ
Day 4 Nagoya
Wakamiya Hachiman Shrine
เป็นศาลเจ้าที่ว่ากันว่าเป็นที่สิงสถิตย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยคุ้มครองและปกป้องนาโกย่ามาตั้งแต่สมัยอดีตกาล ศาลเจ้านี้ถูกสร้างขึ้นใหม่โดย บิดาของโอดะ โนบุนะกะ ต่อมาโทะโยะโทะมิ ฮิเดะโยะชิได้ทำการบริจาค และได้ตั้งที่นี่ให้เป็นศาลเจ้าแห่งตระกูลโอวะริโทคุกะวะ เรียกได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่ถูกสร้างมาพร้อม ๆ กับยุคเซ็นโกะคุ และด้วยความที่ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่อง “การสมหวังในความรัก” จึงถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานอยู่หลายต่อหลายครั้ง
และในวันที่ 15 และ 16 พฤษภาคมของทุกปี จะมีงานเทศกาลรถแห่ “ฟุกุโรคุจูชะ” (ฟุกุโรคุจูเป็นหนึ่งในเจ็ดเทพเจ้าแห่งโชคลาภ) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของเมือง
ในวันที่ 15 และ 16 พฤษภาคมของทุกปี จะมีงานเทศกาลรถแห่ “ฟุกุโรคุจูชะ” (ฟุกุโรคุจูเป็นหนึ่งในเจ็ดเทพเจ้าแห่งโชคลาภ) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของเมือง
Nagoya Castle
ปราสาทนาโกย่าสร้างในช่วงยุคเริ่มต้นของเอโดะ สมัยตระกูลโตกุกาว่า เป็น 1 ในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แต่ช่วงสงครามโลก ปี 1945 ได้ถูกทิ้งระเบิดลง ทุกอย่างพังทลายหมด แล้วต่อมา ปี 1959 ก็ค่อยๆเริ่มบูรณะทีละอย่าง และยังมีสวนจวนเจ้าเมืองที่ได้สร้างกลับมาใหม่ทั้งหมด สามารถเข้าไปชมได้แล้วส่วนหนึ่ง
นักแสดงโชว์ที่ปราสาทนาโกย่า
ภายในแต่ละห้องจะเห็นภาพวาด ลงรักปิดทอง บนบานประตู เรียกว่า Fusuma แต่ละห้องสวยมาก ห้องแรกเป็นห้อง Genkan เป็นห้องรับรองผู้จะมาขอพบเจ้าเมือง ในห้องมีรูป เสือดาว และ เสือโคร่ง ล้อมรอบห้อง เหมือนไว้ขู่คนที่จะพบให้รู้สึกเกรงเลย
ต่อมาห้อง Omote Shoin เป็นห้องที่ไว้ประชุมอย่างทางการ ประกอบด้วย 5 ห้อง จะแบ่งไปตามความสำคัญของคนแต่ละคนที่มาพบ โดยเฉพาะห้อง Jodan no Ma ที่จะประดับ และวาดได้หรูหราที่สุดมีไว้สำหรับคุยกับบุคคลสำคัญเท่านั้น
Nagoya Noh Theater
Nagoya Nogakudo Noh Theater โรงละครโนห์แห่งนาโกย่า อยู่ใกล้ปราสาทนาโกย่า และมีรอบชมแบบฟรีด้วย! ที่นี้เป็นโรงละครโนห์ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ละครโนห์ คือศิลปะการแสดงหน้ากากของญี่ปุ่นแบบโบราณมีมายาวนานกว่า 700 ปี ได้รับเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก
เนื้อหาของละครโนจะอิงจากนิทานวรรณกรรมโบราณ ซึ่งเป็นเรื่องราวของเทพเจ้าแปลงกายเป็นมนุษย์ รับหน้าที่เป็นตัวเอกคอยบรรยายเนื้อเรื่องตลอดการแสดง ละครโนจะมีการใช้หน้ากาก เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ประกอบร่วมกับการรำ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้ผู้แสดงและนักดนตรีที่ได้รับการฝึกอย่างดี อารมณ์ความรู้สึกจะถ่ายทอดผ่านนาฏยภาษาที่เป็นแบบแผนและหน้ากากที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งใช้เป็นสัญลักษณ์บอกบทบาทต่าง ๆ เช่น วิญญาณ ผู้หญิง เทพเจ้า และภูตผีปิศาจ
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/qA9jWjhzrQBMrgJr7?g_st=ic
Hitsumabushi Bincho – Kinshachi Yokocho
Hitsumabushi Bincho มาถึงนาโกย่าแล้วต้องได้กินข้าวหน้าปลาไหล!!! อีกร้านแนะนำคือ Bincho
เมนูข้าวหน้าปลาไหลของร้าน ชื่อเมนูว่า “Hitsumabushi” Hitsu แปลว่า ชามไม้ Mabushi ประมาณว่าเป็นผงเล็กๆ ในที่นี้คงหมายถึงปลาไหลที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆในชาม คนนาโกย่าจะเรียกข้าวหน้าปลาไหลว่า Hitsumabushi แทน Unagi Don กันหมด
เมนูจะเสิร์ฟ ปลาไหลย่างกลิ่นหอมในชามไม้ พร้อมเครื่องเคียง เวลาทาน ทานได้ทั้งหมด 4 แบบโดยตักแบ่งกินทีละส่วน
- 1.ทานแบบไม่ใส่อะไรเลย ได้รส ข้าวและปลาไหลดั้งเดิมเท่านั้น
- 2.ทานแบบใส่สาหร่าย และ วาซาบิ จะได้กลิ่นหอมและความเผ็ดของวาซาบิเข้ามาตัดรส
- 3.เติมซุปลงไป เป็นข้าวต้มหน้าปลาไหล
- 4.ทานตามแบบที่อยากทานใน 3 แบบแรก
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/MTGjwv4NoWJ5nnQU6?g_st=ic
Tamesaburo Memorial Museum
เป็นพิพิธภัณฑ์ก่อตั้งขึ้นจากบ้านพักเดิมของนายทาเมซาบูโร ฟุรุคาวะ นักธุรกิจและนักสะสมงานศิลปะชื่อดัง ภายในพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยผลงานศิลปะญี่ปุ่นมากมาย โดยเฉพาะภาพวาดของศิลปินชื่อดัง เช่น โยโคยามะ ไทคัน, ทาเคอูจิ เซโฮ และอุเอมุระ โชเอน นอกจากนี้ ยังมีสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและห้องสำหรับการดื่มชาอีกด้วย ซึ่งนายทาเมซาบูโร ฟุรุคาวะ ขึ้นชื่อว่าใส่ใจกับสุขภาพมากๆ จึงสรรหาแต่ของดีๆ เท่านั้น อย่างน้ำต้องนำน้ำแร่จากภูเขามาดื่ม ซึ่งคาเฟ่ที่นี้เสิร์ฟด้วยน้ำแร่ นี้ด้วย ถ้วยที่มาเสิร์ฟชาก็ปั้นโดยศิลปินชื่อดัง จะมีบอกด้วยว่าศิลปินคนไหนเป็นคนปั้น
googlemap : https://maps.app.goo.gl/V4YriBvKvuFNktj49
Kakuozan Nittaiji Temple
วัดกากูโอซันนิตไตจิ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ วัดญี่ปุ่น-ไทย วัดแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพอันดีระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น โดยมีพระพุทธรูปสำคัญที่เป็นของขวัญจากประเทศไทย
วัดก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของชาวไทยที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น
มีอนุเสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอยู่ด้านหน้าโถงหลัก
ภายในวัดมีพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ โดยเฉพาะพระพุทธรูปทองคำและทองสัมฤทธิ์ ซึ่งมอบเป็นของขวัญโดยรัฐบาลไทยประดิษฐานอยู่ตรงใจกลางของห้องโถงหลักด้านใน และมีพระบรมสารีริกธาตุภายในวัดด้วย
วัดจัดกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี เช่น งานเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่
googlemap : https://maps.app.goo.gl/H68DBKNSnNwhmYHi8
PARCO Nagoya Sakae
Parco Nagoya ห้างใหญ่ที่อยู่ย่าน Sakae มีสินค้าเยอะมาก แบ่งเป็น 3 ตึก แบ่งตึกแบรนด์ ตึกร้านอาหาร และตึกรวมคาแรคเตอร์ช้อป โปเกม่อนสโตร์สาขาใหญ่ที่ในญี่ปุ่น
ย่าน Sakae แหล่งช้อปปิ้งหลักของนาโกย่า มีห้าง แบรนด์เยอะ เรียกมีครบทุกอย่างเหมือนเมืองอื่นนั้นแหละ Parco, Bic Camera, Loft, Donki มีครบหมด
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/KSUg4TM4Ygo9b9pZA
Osu Shopping Street
Osu Shoping Arcade
เป็นถนนสายช้อปปิ้งที่ใหญ่สุดในนาโกย่ามีร้านค้ามากกว่า 400 ร้านตลอดทาง และของกินก็เยอะมากเช่นกัน ถ้าใครอยากหาของมือสอง ที่นี้แนะนำเลย
ด้านหน้าถนนคือ Osu Kannon Temple เป็นวัดตั้งอยู่กลางเมืองนาโกย่า เดิมวัดอยู่กิฟุ แต่ต่อมาย้ายทั้งวัดมาที่นี้โดย โตตุกาวะ อิเอยาสึ ในปี 1612 เพราะวัดนี้โดนปัญหาเรื่องน้ำท่วมหลายครั้ง และในปัจจุบันก็ซ่อมแซ่มต่อเติมจนเหมือนอย่างที่เห็นทุกวันนี้
ภายในวัดมีพระพุทธรูปไม้ที่แกะสลักโดย Kobo Daishi หรืออีกชื่อคือ Kukai พระชาวญี่ปุ่นผู้ก่อตั้งนิกาย Shingon เป็นหนึ่งในนิกายที่มีทั่วญี่ปุ่นคนไทยคงรู้จักแต่ Zen กับ Shinto(และชินโตไม่ใช่พุทธด้วย เป็นศาสนาชินโตเลย) คนญี่ปุ่นจะนับถือ Kukai เปรียบเหมือนหลวงปูทวดบ้านเรา คือจะเห็นรูปหล่อของท่านทุกวัดในนิกาย Shingon เลย
Googlemap : https://maps.app.goo.gl/hHKDz2M7h53XdQ6T9
ร้าน Komehyo ร้านมือสองแบรนด์เนมมีสาขาทั่วญี่ปุ่น มีต้นกำเนิดจากนาโกย่า ของแบรนด์เนมต่างๆ อยู่ในสภาพดีมาก เพราะเขาบอกว่าคนนาโกย่า เป็นคนที่รักษาของได้ดีมาก สภาพสินค้าต่างๆเลยยังดี สาขาใหญ่อยู่ที่ถนน Osu นี่แหละ
Day 5 Nagoya – Nagoya Chubu Centair
วันสุดท้ายเราเดินทางมาที่สนามบิน Nagoya Chubu Centair เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพด้วยสายการบินไทย
ก่อนกลับไทยที่สนามบิน Chubu Centrair International Airport แนะนำว่าให้เดินขึ้นมาชั้นร้านด้านบนก่อนเชคอิน มีร้านให้ช้อปอีกเยอะมาก!! หลายอย่างไม่มีใน dutyfree นะ มาช้อปที่นี้ก่อนเลย!
ภายในเกท Dutyfree ของสนามบินนาโกย่า ก็มีของให้ช้อปอีกเยอะ เครื่องสำอางที่สนามบินอื่นมี ที่นี้ก็หมด และขนมของฝากยอดฮิตต่างๆ จากทั่วประเทศก็มีครบหมด อยากได้อะไรก็หาได้ที่นี้เลย
มาเที่ยวนาโกย่า และมิเอะ กันเถอะ
สายการบินไทย เปิดเที่ยวบินตรงสู่นาโกย่า 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตอนนี้มีไฟล์ทดึกจากนาโกย่าแล้วนะ ไม่ต้องรีบไปสนามบิน มีเวลาเที่ยวเพิ่มอีกวัน
เที่ยวบินขาออก (จ, พ, พฤ, ส)
- TG644 ออกเดินทาง BKK เวลา 00.05 น. NGO ถึงเวลา 07.30 น.
- TG646 ออกเดินทาง BKK เวลา 11.30 น. NGO ถึงเวลา 18:55 น.
เที่ยวบินขาเข้า (อ. พฤ, ศ, อา)
- TG645 ออกเดินทาง NGO เวลา 11.00 น. BKK ถึงเวลา 15.40 น.
- TG647 ออกเดินทาง NGO เวลา 00.30 น. BKK ถึงเวลา 05:10 น.
รวมคูปองส่วนลดในญี่ปุ่น Donki/ตึกม่วง Takeya/ประกัน Sompo >>> www.gographjapan.com/category/คูปองส่วนลดญี่ปุ่น/